Dr. W EP. 130 ปวด-ชาหลังเท้า ร่องนิ้วโป้ง? 🦶⚡️ อาจเป็น 'เส้นประสาทถูกกดทับ' ที่ข้อเท้าส่วนหน้า! (Anterior Tarsal Tunnel Syndrome)
- Werachart Jaiaree
- 13 ส.ค.
- ยาว 4 นาที
😊 สวัสดีครับ! Dr. W กลับมาอีกครั้งครับ! เคยมีอาการ ปวดแสบปวดร้อน, ชา, หรือรู้สึกยิบๆ บริเวณ หลังเท้า โดยเฉพาะตรง "ร่องระหว่างนิ้วโป้งกับนิ้วชี้เท้า" ไหมครับ? 😩 หรือรู้สึกว่า กระดกนิ้วโป้งเท้าไม่ค่อยมีแรง? อาการเหล่านี้อาจมีสาเหตุมาจากเส้นประสาทที่ชื่อว่า Deep Peroneal Nerve (DPN) ซึ่งวิ่งอยู่บริเวณหน้าแข้งลงมาที่หลังเท้า ถูกกดทับในบริเวณที่เรียกว่า "Anterior Tarsal Tunnel" หรืออุโมงค์หน้าข้อเท้านั่นเองครับ ภาวะนี้เราเรียกว่า Anterior Tarsal Tunnel Syndrome (ATTS)

🧠 รู้จัก Deep Peroneal Nerve (DPN) และ ATTS กันหน่อย:
◼️ หน้าที่ DPN: เป็นเส้นประสาทสำคัญที่สั่งการ กล้ามเนื้อกระดกข้อเท้าและนิ้วเท้า (เช่น Tibialis Anterior, Extensor Hallucis Longus - EHL ที่ใช้กระดกนิ้วโป้ง) และยังทำหน้าที่ รับความรู้สึก บริเวณผิวหนังตรง ร่องระหว่างนิ้วโป้งกับนิ้วชี้เท้า ด้วยครับ
◼️ ATTS คืออะไร?: คือภาวะที่เส้นประสาท DPN นี้ ถูก "กดเบียด" หรือ "กดทับ" ขณะที่ลอดผ่านโครงสร้างต่างๆ บริเวณ หน้าข้อเท้า ซึ่งเปรียบเสมือนอุโมงค์ (Anterior Tarsal Tunnel)
🤔 แล้วทำไมเส้นประสาทถึงถูกกดทับได้ล่ะ? (Causes of ATTS):
สาเหตุมีได้หลากหลายครับ ทั้งจากปัจจัยภายนอกและภายใน:
◼️ปัจจัยภายนอก (External):
▪️ 👟 รองเท้า: รองเท้าที่ คับแน่น เกินไป, ส้นสูง (ทำให้เท้าอยู่ในท่าจิก Plantarflexion นานๆ เส้นประสาทอาจถูกยืดหรือกดทับ), หรือ การผูกเชือกรองเท้าแน่น บริเวณหลังเท้า
▪️ 💥 การบาดเจ็บ/แรงกดซ้ำๆ: การ กระแทก ที่หลังเท้าบ่อยๆ (เช่น นักฟุตบอลเตะบอล), หรือแม้แต่ของง่ายๆ อย่าง กุญแจที่เสียบไว้ในรองเท้า ก็กดทับได้!
▪️ 🏃♀️ กิจกรรม: การใช้งานข้อเท้าซ้ำๆ ในท่าที่ไม่เหมาะสม
◼️ ปัจจัยภายใน (Internal):
▪️ 🦴 โครงสร้างกระดูก: กระดูกงอก (Osteophytes) บริเวณข้อเท้า, การหักของกระดูกแล้วติดผิดรูป
▪️ ก้อนเนื้อ/ซีสต์: ถุงน้ำ (Ganglion cyst), ซีสต์จากเยื่อหุ้มข้อ (Synovial cyst), เนื้องอกเส้นประสาท (Neuroma), หรือหลอดเลือดโป่งพอง (Aneurysm)
▪️ 💪 กล้ามเนื้อ/เอ็น: กล้ามเนื้อ Extensor Hallucis Brevis (EHB) โตผิดปกติ, เอ็น Extensor Hallucis Longus (EHL) หรือพังผืดหน้าข้อเท้า (Inferior extensor retinaculum) กดเบียดเส้นประสาท
▪️ 🔥 การอักเสบ: การอักเสบรอบๆ ข้อเท้าและเส้นเอ็น
◼️ ปัจจัยเสริมอื่นๆ:
▪️ 🦶 โครงสร้างเท้า: ภาวะ อุ้งเท้าสูง (Pes cavus) หรือเท้าส่วนหน้าที่แข็งผิดรูป อาจส่งเสริมให้เกิดการกดทับได้ง่ายขึ้น
🦶⚡️ อาการของ ATTS เป็นอย่างไร? (Clinical Presentation):
อาการที่พบบ่อยคือ:
◼️ อาการทางความรู้สึก (Sensory - พบหลัก):
▪️ ชา, รู้สึกยิบๆ (Tingling), หรือ ปวดแสบปวดร้อน (Burning pain) บริเวณ ร่องนิ้วเท้าระหว่างนิ้วโป้งกับนิ้วชี้
▪️ อาจรู้สึก รับความรู้สึกได้น้อยลง หรือ ไวกว่าปกติ ในบริเวณดังกล่าว
▪️ กดเจ็บ ตามแนวเส้นประสาท DPN ที่ทอดผ่านหน้าข้อเท้า
▪️ อาการ แย่ลง เมื่อทำกิจกรรม, ใส่รองเท้าบางชนิด, หรือ ตอนกลางคืน (อาจเกิดจากท่านอนที่ทำให้เท้าอยู่ในท่า Plantarflexion ซึ่งไปยืดหรือกดทับเส้นประสาท)
◼️ อาการทางกล้ามเนื้อ (Motor - อาจพบในรายที่เป็นมาก/นาน):
▪️ อ่อนแรง ในการ กระดกนิ้วโป้งเท้าขึ้น (Weakness of EHL)
▪️ อาจสังเกตเห็น กล้ามเนื้อมัดเล็กๆ ที่หลังเท้า (Extensor Digitorum Brevis - EDB) ฝ่อลีบลง (Atrophy)
🩺 การวินิจฉัย (Diagnosis):
สำคัญที่สุดคือ การซักประวัติและตรวจร่างกาย: แพทย์หรือนักกายภาพบำบัดจะซักถามอาการ, ปัจจัยกระตุ้น, และตรวจร่างกายอย่างละเอียด
◼️ ท่าตรวจพิเศษ:
▪️ Tinel's Sign: เคาะเบาๆ ตามแนวเส้นประสาท DPN บริเวณหน้าข้อเท้า (มักจะเหนือกล้ามเนื้อ EDB) ถ้ามีอาการ แปล๊บ ชา หรือปวดร้าว ไปที่ร่องนิ้วโป้ง/นิ้วชี้ ถือว่า Positive (+)
▪️ Squeeze Test: (อาจใช้ในบางกรณี) การบีบกระดูกฝ่าเท้าเข้าหากัน พร้อมกับกดที่เส้นประสาทเพื่อกระตุ้นอาการ
◼️ การตรวจเพิ่มเติม:
▪️ การตรวจคลื่นไฟฟ้าเส้นประสาทและกล้ามเนื้อ (EMG/NCS): มีประโยชน์มากในการ ยืนยัน การกดทับของ DPN และช่วย แยกจาก ภาวะอื่นๆ ที่อาจมีอาการคล้ายกัน เช่น การกดทับเส้นประสาท Common Peroneal ที่สูงขึ้นไปบริเวณเข่า หรือ ปัญหาจากหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทระดับ L5 ที่หลัง
✅ แนวทางการรักษา (Treatment):
◼️ เป้าหมายหลักคือ การรักษาแบบไม่ผ่าตัด (Non-surgical Management):
▪️ 💡 การให้ความรู้ (Patient Education): ทำความเข้าใจธรรมชาติของโรค และ หลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้น เช่น เปลี่ยนรองเท้า, ปรับวิธีผูกเชือกรองเท้า, เลี่ยงท่าทางที่ทำให้เกิดอาการ
▪️ 💊 ยา / การฉีดยาเฉพาะที่ (Medications / Local Injections): อาจใช้ยาแก้ปวดปลายประสาท หรือยาต้านอักเสบ NSAIDs ตามคำแนะนำของแพทย์ หรืออาจพิจารณาฉีดสเตียรอยด์เฉพาะที่เพื่อลดการอักเสบและการกดทับ
▪️ 🚶♀️ กายภาพบำบัด (Physical Therapy):
▪️ การจัดการภาระ (Load Management): ปรับลดกิจกรรมที่ทำให้ปวดในช่วงแรก
▪️ การรักษาด้วยมือ/เครื่องมือ: อาจใช้เทคนิคเพื่อลดการกดทับ หรือลดความตึงตัวของเนื้อเยื่อรอบๆ
▪️ การออกกำลังกาย: เน้นการ ฝึกการรับรู้ข้อต่อ (Proprioception), การ เสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อรอบข้อเท้าและเท้า เพื่อเพิ่มความมั่นคง (Foot stability) ซึ่งอาจช่วยลดแรงกดต่อเส้นประสาททางอ้อม (บทความต้นฉบับแนะนำการฝึก Peroneals ซึ่งอาจจะเพื่อช่วยคุมสมดุลเท้าโดยรวม แต่ต้องพิจารณาตามเคส)
▪️ การใส่อุปกรณ์เสริม: อาจพิจารณาแผ่นรองเท้าเฉพาะบุคคลในรายที่มีปัญหาโครงสร้างเท้าชัดเจน
◼️ การผ่าตัด (Surgical Decompression): จะพิจารณาในกรณีที่รักษาแบบไม่ผ่าตัดอย่างเต็มที่แล้ว อาการไม่ดีขึ้น หรืออาการรุนแรงมาก โดยมีเป้าหมายเพื่อเข้าไป ตัดหรือเลาะพังผืดที่กดทับเส้นประสาท ออก
💡 บทสรุปและข้อคิดจาก Dr. W:
Anterior Tarsal Tunnel Syndrome (ATTS) เป็นอีกสาเหตุหนึ่งของอาการปวด ชา หรือแสบร้อนบริเวณหลังเท้าและร่องนิ้วโป้ง ที่เกิดจากการกดทับเส้นประสาท DPN การวินิจฉัยอาศัยประวัติและการตรวจร่างกายเป็นสำคัญ การรักษาเบื้องต้นเน้นการแก้ไขปัจจัยกระตุ้น, การพัก, การใช้ยา (ถ้าจำเป็น), และกายภาพบำบัดเพื่อฟื้นฟูการทำงานของเท้าและข้อเท้า หากคุณมีอาการเหล่านี้ ควรปรึกษาแพทย์หรือนักกายภาพบำบัดเพื่อรับการประเมินและคำแนะนำที่ถูกต้องนะครับ 😊
✨ เคสตัวอย่างจากคลินิก: ชาหลังเท้า ร่องนิ้วโป้ง ตอนใส่คัทชู... จัดการเส้นประสาท + ปรับสมดุลกล้ามเนื้อ ✨
▪️
◼️ ผู้ป่วย: คุณจ๋า พนักงานต้อนรับ อายุ 30 ปี ต้องใส่รองเท้าคัทชูส้นสูงปานกลางยืนและเดินเป็นเวลานานเกือบทั้งวัน เริ่มมีอาการ ชา แสบร้อน และรู้สึกยิบๆ บริเวณ หลังเท้าลามไปถึงร่องนิ้วระหว่างนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ ข้างซ้ายมาประมาณ 2 เดือน อาการเป็นมากขึ้นช่วงท้ายของวันทำงาน หรือวันไหนที่ต้องเดินเยอะๆ และบางทีก็รู้สึก ปวดรำคาญตอนกลางคืน ลองเปลี่ยนรองเท้าเป็นผ้าใบในวันหยุด อาการจะดีขึ้นบ้าง แต่ก็ยังรู้สึกชาๆ อยู่
◼️ การประเมิน:
▪️ ซักประวัติ: อาการปวดมีลักษณะของเส้นประสาท (Neuropathic pain), ไม่ใช่ลักษณะปวดตื้อๆ จากกล้ามเนื้อหรือข้อต่อชัดเจน ไม่มีประวัติอุบัติเหตุรุนแรงที่ข้อเท้า ไม่มีอาการปวดหลังหรือร้าวจากหลัง ปฏิเสธโรคประจำตัวที่เกี่ยวข้อง
▪️ ตรวจร่างกาย:
▪️ สังเกต: ไม่พบบวม แดง ร้อน ชัดเจน กล้ามเนื้อหลังเท้า (EDB) ยังไม่ฝ่อลีบ
▪️ คลำ: กดเจ็บชัดเจน ตามแนวหน้าข้อเท้า ค่อนไปทางด้านในเล็กน้อย (ตามแนว DPN)
▪️ ทดสอบความรู้สึก: พบว่าบริเวณร่องนิ้วโป้ง-นิ้วชี้ รับความรู้สึกได้น้อยลง (Hypoesthesia) เล็กน้อยเมื่อเทียบกับข้างขวา
▪️ Tinel's Sign: เคาะเบาๆ บริเวณหน้าข้อเท้าตามแนวเส้นประสาท DPN -> คุณจ๋ารู้สึก แปล๊บ/ชาร้าว ไปที่ร่องนิ้วโป้ง-นิ้วชี้ (+)
▪️ Ankle ROM: การกระดกข้อเท้าขึ้นสุด (Dorsiflexion) ทำได้ปกติ แต่การ จิกข้อเท้าลงสุด (Plantarflexion) ค้างไว้ ทำให้รู้สึกชามากขึ้น
▪️ Motor: กำลังกล้ามเนื้อกระดกข้อเท้า (Tib Ant) และกระดกนิ้วโป้ง (EHL) ยังปกติ (MMT grade 5)
▪️ การประเมินด้วย NMI/NKT: แม้กำลังกล้ามเนื้อหลักจะยังดี แต่สงสัยว่าอาจมี Imbalance ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมเท้า หรือการทำงานชดเชยจากอาการปวด/ชาเรื้อรัง:
▪️ Hypothesis: อาจมีการทำงานมากเกินไป (Facilitation) ของกล้ามเนื้อที่พยายาม "ดึง" เท้าให้พ้นจากท่าที่กระตุ้นอาการ หรือกล้ามเนื้อที่ตึงจากการใส่ส้นสูง เช่น Peroneals หรือ Gastrocnemius/Soleus อาจมีการทำงานที่ลดลง (Inhibition) ของกล้ามเนื้อที่ถูกเส้นประสาท DPN เลี้ยง (แม้จะยังไม่ถึงขั้นอ่อนแรงชัดเจน) หรือกล้ามเนื้อที่ช่วยรักษาอุ้งเท้า/คุมการ Pronation เช่น Tibialis Posterior
▪️ Testing: ทดสอบ MMT ของ Tib Ant/EHL อีกครั้งโดยเน้นคุณภาพ พบว่าการเกร็งไม่ Smooth หรือทนได้ไม่นานเท่าข้างดี ทดสอบ Peroneals หรือ Gastrocs/Soleus -> พบว่าตึงตัว (Facilitated)
◼️ การรักษาแบบผสมผสาน:
1. Pain Science Education (PSE):
▪️ อธิบาย: ให้คุณจ๋าเข้าใจว่าอาการชา/แสบร้อนเกิดจากเส้นประสาท DPN ที่หน้าข้อเท้าถูก "รบกวน" หรือ "ระคายเคือง" จากแรงกดหรือแรงดึงซ้ำๆ (เปรียบเหมือนสายไฟที่ถูกหนีบ) ไม่ได้หมายความว่าเส้นประสาทเสียหายรุนแรง และสามารถดีขึ้นได้
▪️ เชื่อมโยงปัจจัยกระตุ้น: อธิบายว่าการใส่คัทชู (โดยเฉพาะส้นสูง) ทำให้เท้าอยู่ในท่าจิก (Plantarflexion) นานๆ ซึ่งไปเพิ่มแรงตึง/แรงกดต่อเส้นประสาท DPN บริเวณหน้าข้อเท้าได้อย่างไร รวมถึงเชือกรองเท้าหรือขอบรองเท้าที่กดทับโดยตรง
▪️ ลดความกังวล: เน้นว่าอาการตอนกลางคืนอาจเกิดจากท่านอนที่เท้าจิกโดยไม่รู้ตัว และสามารถปรับเปลี่ยนได้
2. Load Management & Activity/Footwear Modification:
▪️ ปรับรองเท้า: สำคัญที่สุด! แนะนำให้เปลี่ยนรองเท้าทำงาน (ถ้าเป็นไปได้) เป็นแบบที่ หน้ากว้าง หัวไม่บีบ ส้นเตี้ยหรือไม่มีส้น และมีพื้นที่รองรับอุ้งเท้าที่ดี หากเลี่ยงคัทชูไม่ได้ ให้เลือกรุ่นที่นิ่ม หัวกว้าง และอาจลอง ปรับวิธีการผูกเชือก ให้หลวมขึ้นบริเวณหลังเท้า หรือใช้ แผ่นรองกันกัด/แผ่นซิลิโคน แปะบริเวณที่อาจถูกกดทับ
▪️ ปรับพฤติกรรม: พยายาม ขยับข้อเท้าบ่อยๆ ไม่ให้อยู่ในท่าจิกนานๆ, หลีกเลี่ยงการนั่งไขว่ห้าง ที่อาจกดทับเส้นประสาทสูงขึ้นไป, ระวังท่านอน ไม่ให้เท้าจิกค้างคืน (อาจใช้หมอนช่วยหนุน)
3. NMI/NKT Intervention & Manual Therapy:
▪️ Release: คลายกล้ามเนื้อที่ Facilitated เช่น Peroneals, Gastrocs/Soleus ด้วยเทคนิค Manual release หรือ Stretching ที่เหมาะสม
▪️ Activate: พบ Inhibition ของ Tib Ant หรือ EHL ให้ฝึก Activation เบาๆ ในช่วงที่ไม่ปวด เช่น กระดกข้อเท้า/นิ้วโป้งต้านแรงเบาๆ
▪️ Nerve Mobilization: สอนท่า Nerve Gliding exercise สำหรับ DPN อย่างนุ่มนวลและระมัดระวัง เพื่อช่วยให้เส้นประสาทเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น ภายใต้ข้อจำกัดที่ไม่ทำให้เกิดอาการชาหรือปวดมากขึ้น
4. Exercise Prescription:
▪️ เน้นการ ฟื้นฟูการทำงานของเท้าและข้อเท้า ในภาพรวม เช่น ฝึกการทรงตัว (Balance/Proprioception), ฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อในอุ้งเท้า (Intrinsic foot muscles), และกล้ามเนื้อรอบข้อเท้า (Tibialis Posterior, Peroneals - เพื่อ Stability) โดยเลือกท่าที่ไม่กระตุ้นอาการ
◼️ ผลลัพธ์: คุณจ๋าลดการใส่คัทชูลง เปลี่ยนมาใส่รองเท้าที่เหมาะสมมากขึ้น อาการชา แสบร้อนลดลงอย่างชัดเจน สามารถยืน/เดินได้นานขึ้นโดยไม่ปวด Tinel's sign ลดความไวลง การรับความรู้สึกที่ร่องนิ้วดีขึ้น และสามารถควบคุมอาการได้ด้วยตนเองเมื่อเริ่มรู้สึกตึงๆ
◼️ ข้อสังเกต: เคส ATTS นี้ ปัจจัยหลักมาจากภายนอก (รองเท้า, ท่าทาง) การแก้ไขที่ตรงจุดที่สุดคือ การปรับเปลี่ยนปัจจัยเหล่านั้น (Load Management & Modification) การให้ ความรู้ (Pain Science) เพื่อให้ผู้ป่วยเข้าใจและร่วมมือจึงสำคัญมาก NMI/NKT และ Manual Therapy เข้ามาช่วยเสริมในการ ปรับสมดุลกล้ามเนื้อ และ ฟื้นฟูการเคลื่อนไหวของเส้นประสาท ส่วน Exercise จะเน้นการฟื้นฟู Function โดยรวมเมื่ออาการทางเส้นประสาทดีขึ้นแล้วครับ 😊
References
1. Gould JS. Anterior Tarsal Tunnel Syndrome. [Updated 2023 Aug 8]. In: StatPearls [Internet]. Treasure Island (FL): StatPearls Publishing; 2025 Jan-. Available from: https://www.ncbi.nlm.nih.gov/books/NBK542191/ PMID: 31194370.
2. Donovan A, Rosenberg ZS, Bencardino JT. MR imaging of entrapment neuropathies of the foot and ankle. Foot and Ankle Clinics. 2010 Jun;15(2):263-85. doi: 10.1016/j.fcl.2010.02.001.
3. Dellon AL, Höke A, Williams EH, et al. Sensory recovery following surgical decompression of the common peroneal nerve. Journal of Reconstructive Microsurgery. 2004 Oct;20(7):525-30. doi: 10.1055/s-2004-833033. PMID: 16958392.
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บ้านใจอารีย์คลินิกกายภาพ มี 2 สาขา
!!ยินดีให้คำปรึกษา ฟรี!!
📌สาขา เยาวราช
-แผนที่ : https://g.co/kgs/kXSEbT
-โทร : 080 425 9900
-Line : https://lin.ee/6pVt7JG
📌สาขา เพชรเกษม81
-แผนที่ : https://g.co/kgs/MVhq7B
-โทร : 094 654 2460
-Line :https://lin.ee/cl1hNqe










ความคิดเห็น