top of page

Dr. W EP. 94 ปวดเข่าด้านหน้า? 🤔 รู้จัก Patellofemoral Pain (PFP) ยอดฮิตในวัยรุ่น/คน Active! 🏃‍♀️

😄 สวัสดีครับ! Dr. W กลับมาอีกครั้งครับ วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับหนึ่งในสาเหตุของอาการ "ปวดเข่าด้านหน้า" หรือ "ปวดรอบๆ/ใต้ลูกสะบ้า" ที่พบบ่อยที่สุด โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นและคนที่ชอบออกกำลังกาย นั่นคือ Patellofemoral Pain (PFP) หรือบางทีก็เรียกว่า Runner's Knee ที่ดูเหมือนจะพบบ่อยในนักวิ่ง แต่จริงๆ แล้วพบได้ในหลากหลายกิจกรรมครับ 🦵


🦿 PFP เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยมากจริงๆ ครับ มีรายงานความชุกต่อปีถึง 22.7% ในประชากรทั่วไป และสูงถึง 28.9% ในกลุ่มวัยรุ่น! โดยเฉพาะในนักกีฬาหญิงวัยรุ่นอาจพบได้ถึง 1 ใน 4 เลยทีเดียว และเป็นสาเหตุอันดับต้นๆ ที่คนไข้มาพบแพทย์หรือนักกายภาพบำบัดด้วยอาการปวดเข่า


👇 ภาพด้านล่างนี้แสดงกายวิภาคที่เกี่ยวข้อง และภาพรวมแนวทางการรักษาครับ

PFP คืออะไรกันแน่? ใครเสี่ยง? มันหายเองได้ไหม? แล้วปัจจัยอะไรบ้างที่เกี่ยวข้อง? มาหาคำตอบกันใน EP นี้ครับ!


📌 ทำความรู้จัก Patellofemoral Pain (PFP): ภาพรวม, ความเรื้อรัง, ปัจจัยเสี่ยง และจิตใจ


1️⃣  PFP ไม่ใช่โรคที่หายเองง่ายๆ! (PFP Is Not Always Self-Limiting!)


🔸 ความเชื่อเดิม vs ความจริง: หลายคนอาจคิดว่าปวดเข่าแบบนี้ เดี๋ยวพักๆ ก็หาย เป็นเรื่องปกติของคน Active แต่ความจริงคือ PFP มีแนวโน้มที่จะ "เรื้อรัง" (Chronic) ได้สูงมากครับ!

🔸 หลักฐานความเรื้อรัง: งานวิจัยที่ติดตามผลระยะยาว (5-20 ปี) พบว่า "กว่า 50%" ของคนที่เป็น PFP ยังคงมีอาการปวดหรือมีผลการรักษาที่ไม่ดีนัก! ในกลุ่มวัยรุ่น อัตราการคงอยู่ของอาการ (Persistence of symptoms) อาจสูงถึง 78% เลยทีเดียว!

🔸 อาจนำไปสู่ข้อเข่าเสื่อม?: มีความเชื่อมโยงว่า PFP ที่เรื้อรังอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิด "ข้อเข่าเสื่อมในส่วนข้อสะบ้า" (Patellofemoral OA) ในอนาคตได้ (พบการเปลี่ยนแปลงในภาพถ่ายรังสีได้ถึง 69% ในผู้ป่วย PFP เรื้อรัง)

🔸 สรุป: PFP จึงเป็นภาวะที่ ควรได้รับการดูแลรักษาอย่างจริงจังและเหมาะสมตั้งแต่เนิ่นๆ ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ เพราะมีโอกาสสูงที่จะกลายเป็นปัญหาเรื้อรังและส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตในระยะยาวได้ครับ


2️⃣ ใครเสี่ยง? ปัจจัยเสี่ยงที่ "พิสูจน์แล้ว" มีน้อย! (Who's at Risk? Few Proven Risk Factors!) 🤔


🔸 กลุ่มเสี่ยงหลัก: อย่างที่กล่าวไปคือ วัยรุ่น, คนที่ Active (โดยเฉพาะนักกีฬา), และผู้หญิง มีความเสี่ยงสูงกว่าผู้ชาย

🔸 ปัจจัยเสี่ยงที่ "ยืนยัน" (จาก Prospective Studies - หลักฐานปานกลาง/สูง): น่าแปลกใจมากครับว่า ปัจจัยเสี่ยงที่พิสูจน์แล้วว่ามีอยู่ "ก่อน" ที่จะเกิดอาการ PFP นั้น มีเพียง "น้อยมาก" ที่สำคัญคือ:

◾️ แรงกางสะโพก (Hip Abduction Force) ที่ "สูงกว่า" ❗️ ในกลุ่มวัยรุ่น -> ใช่ครับ! อาจจะดูขัดแย้ง แต่พบจากงานวิจัย!

◾️ กำลังกล้ามเนื้อต้นขาหน้า (Quadriceps Force) ที่ "น้อยกว่า" ในประชากรทั่วไปและโดยเฉพาะในกลุ่มทหาร


3️⃣ แล้วปัจจัยอื่นๆ ที่ "เกี่ยวข้อง" ล่ะ? (Associated Factors - Correlation ≠ Causation!)


🔸 มีมากมาย! แต่ยังไม่ชัดเจนว่าเป็น "สาเหตุ" หรือ "ผลลัพธ์": งานวิจัยพบปัจจัยหลายอย่างที่ "มักพบร่วมกับ" PFP แต่ยัง พิสูจน์ไม่ได้ 100% ว่าเป็นสาเหตุโดยตรง ปัจจัยเหล่านี้ "อาจจะ" เกี่ยวข้อง แต่ ไม่ใช่ทุกคนที่มีปัจจัยเหล่านี้แล้วจะต้องปวดเข่า นะครับ!

◾️ กายภาพ/โครงสร้าง/ชีวกลศาสตร์: BMI สูง↑, การเคลื่อนไหวสะโพกผิดปกติ (หุบเข้า/บิดเข้าใน/เชิงกรานเอียง มากไป)↑, มุมสะโพกงอมากไปขณะวิ่ง↑, กล้ามเนื้อสะโพก (หลายมัด) อ่อนแรง↓, มุม Q-angle มาก↑, ร่องกระดูกต้นขาตื้น, สะบ้าสูง↑, กล้ามเนื้อ Quad อ่อนแรง/ลีบ↓, กล้ามเนื้อ Vastus Medialis ทำงานช้า↑, มุมใต้สะบ้าผิดปกติ↑, สะบ้าเอียงไปด้านนอก, เท้าแบน/คว่ำ↑ [ย้ำว่าแค่ความสัมพันธ์]

◾️ ระบบประสาท/ความปวด: ความไวต่อความปวดเพิ่มขึ้น (Pain Sensitivity) ทั้งที่เข่าและทั่วร่างกาย↑, การประมวลผลความปวดในสมองผิดปกติ (Altered Pain Processing)

◾️ จิตใจ (Psychological Factors - สำคัญมาก!): สุขภาพจิตโดยรวมแย่ลง↓, มีภาวะวิตกกังวล/ซึมเศร้า↑, มีความกลัวการเคลื่อนไหว (Fear Avoidance)↑, มีการมองโลกในแง่ร้ายเกี่ยวกับความปวด (Catastrophisation)↑, มีความเชื่อมั่นในตนเองต่ำ (Low Self-Efficacy)↑


4️⃣ บทบาทของ "จิตใจ" และ "ระบบประสาท" ใน PFP (Psychological & Neurological Roles)

🔸 ไม่ใช่แค่เรื่องกล้ามเนื้อ-กระดูก: งานวิจัย PFP ยุคใหม่ชี้ว่า ลำพังแค่การอธิบายด้วยโครงสร้างหรือชีวกลศาสตร์ ไม่เพียงพอ ที่จะอธิบายลักษณะอาการและความเรื้อรังของ PFP ได้ทั้งหมด

🔸 จิตใจส่งผลต่อความปวดโดยตรง: พบว่าคนไข้ PFP จำนวนมาก มี ความวิตกกังวล, ความกลัวการเคลื่อนไหว, ความคิดเชิงลบต่อความปวด, และความเชื่อมั่นในตนเองต่ำ ปัจจัยเหล่านี้ไม่เพียงส่งผลต่อการใช้งานและคุณภาพชีวิต แต่ยัง มีอิทธิพลโดยตรงต่อ "ประสบการณ์ความปวด" ที่สมองรับรู้และแปลผล และอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ ปวดเรื้อรัง ได้

🔸 เน้นดูแล "คน" ไม่ใช่แค่ "เข่า" (Treat the Person, Not Just the Knee!): การรักษา PFP ที่ดี จึงควรเป็นแบบ องค์รวม (Biopsychosocial) คือพิจารณาทั้งปัจจัยทางชีวภาพ, จิตใจ, และสังคม ร่วมด้วยเสมอ ไม่ใช่แค่แก้ไขโครงสร้างหรือเพิ่มความแข็งแรงเท่านั้น


💡 ข้อคิด:

 Patellofemoral Pain (PFP) เป็นปัญหาปวดเข่าที่ พบบ่อย โดยเฉพาะในวัยรุ่น/คน Active และ มักไม่หายเอง ควรได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม

 ปัจจัยเสี่ยงที่ พิสูจน์แล้วจริงๆ มีน้อยมาก แต่มีปัจจัย "ที่เกี่ยวข้อง" อีกมากมาย ทั้งทางร่างกาย, ระบบประสาท, และโดยเฉพาะ "จิตใจ" ซึ่งมีบทบาทสำคัญ

 การทำความเข้าใจ PFP ต้องมองแบบ องค์รวม (Biopsychosocial)

 EP หน้า (EP 95) เราจะมาดูกันครับว่า แล้วเราจะวินิจฉัย PFP ได้อย่างไร และแนวทางการรักษาที่ดีที่สุดตาม Guideline ปัจจุบันมีอะไรบ้างครับ 😄


⚡️ เคสตัวอย่างจากคลินิก ⚡️

น้องนักเรียน ม.ปลาย นักบาสเกตบอล 🏀 มีอาการ ปวดเข่าขวาด้านหน้า รอบๆ ลูกสะบ้า มา 4 เดือน ปวดเวลางอเข่าเยอะๆ, นั่งนานๆ, และหลังซ้อมบาสหนักๆ เริ่มรู้สึก กังวล และ ไม่อยากไปซ้อม เพราะกลัวเจ็บ


การประเมิน:

 Knee Exam: กดเจ็บรอบ/ใต้สะบ้า, ปวดเมื่อ Squat/Step-down test, ตรวจอื่นปกติ

 Associated Factors: พบ Hip Abductor/External Rotator อ่อนแรงเล็กน้อย, มี Dynamic Knee Valgus (เข่าบิดเข้าใน) เล็กน้อยขณะทำ Single Leg Squat

 Psychological Screening: พบ ความกังวล (Anxiety) และ ความเชื่อว่าการงอเข่า/เล่นบาสจะทำให้เข่าแย่ลง (Fear-Avoidance Beliefs)

 NKT/NMI Assessment: ตรวจพบรูปแบบที่ กล้ามเนื้อ TFL (Tensor Fasciae Latae - ด้านข้างสะโพก) ทำงานมากเกินไป (Facilitated) เพื่อชดเชย กล้ามเนื้อ Gluteus Medius (กล้ามเนื้อกางสะโพกด้านข้าง) ที่ทำงานได้ไม่เต็มที่ (Inhibited) ซึ่งรูปแบบนี้อาจส่งเสริมให้เกิด Dynamic Knee Valgus และเพิ่ม Stress ที่ข้อสะบ้าได้


แผนการรักษา :

 Pain Education & Reassurance (สำคัญมาก!):

🔹 อธิบายภาวะ PFP (ไม่ใช่โรคร้ายแรง), ลดกลัวการเคลื่อนไหว/งอเข่า

🔹 อธิบายว่าความกังวลส่งผลต่อความปวดได้

 Load Management: ปรับตารางซ้อมบาส/กิจกรรม (ใช้ Pain Monitoring - EP 80)

 Manual Therapy & Corrective Exercise (NKT/NMI):

🔹 ใช้เทคนิค Manual Release คลาย TFL ที่ Facilitated

🔹 กระตุ้น (Activate) Gluteus Medius ที่ Inhibited ด้วยท่าเฉพาะเจาะจง เช่น Side-lying Clamshell, Side-lying Hip Abduction (เน้นฟอร์มที่ถูกต้อง)

 Exercise Therapy (Hip & Knee Focused):

🔹 เน้นเพิ่มความแข็งแรง ทั้งกล้ามเนื้อสะโพก (รวม Glute Med ที่ Activate แล้ว และกลุ่มอื่นๆ) และต้นขาด้านหน้า (Quadriceps)

🔹 ค่อยๆ เพิ่มความท้าทายตาม Pain Monitoring

 Address Psychological Factors:

🔹 พูดคุยลดความกังวล, ตั้งเป้าหมายร่วมกัน

🔹 สร้างความเชื่อมั่น (Self-efficacy)

🔹 ใช้ Graded Exposure กับกิจกรรม/ท่าที่เคยกลัว


ผลลัพธ์:

 อาการปวดเข่าลดลง

 น้องลดความกังวล เข้าใจร่างกายตัวเองมากขึ้น

 กล้าเคลื่อนไหวและงอเข่ามากขึ้น

 กลับไปซ้อมบาสได้ โดยรู้วิธีจัดการ Load/อาการ


ข้อสังเกต: การดูแล PFP ที่ดี ไม่ใช่แค่การบริหารเข่า แต่รวมถึงการมองปัญหาที่สะโพก (Proximal), การจัดการปัจจัยทางจิตใจ, และในเคสนี้ การแก้ไข Muscle Imbalance ด้วย NKT/NMI ก็เป็นส่วนเสริมที่ช่วยให้การฟื้นตัวมีประสิทธิภาพมากขึ้นครับ!


References

 1. Smith, B. E., et al. (2018). Incidence and prevalence of patellofemoral pain: A systematic review and meta-analysis. PLoS One, 13(1), e0190892. (PMID: 29324820)

 2. Rathleff, M. S., et al. (2016). Is knee pain during adolescence a self-limiting condition? A systematic review. Br J Sports Med, 50(11), 661-666. (PMID: 27245443)

 3. Devereaux, M. D., & Lachmann, S. M. (1984). Patello-femoral arthralgia in athletes attending a sports injury clinic. Br J Sports Med, 18(1), 18-21. (PMID: 6501361)

 4. Taunton, J. E., et al. (2002). A retrospective case-control analysis of 2002 running injuries. Br J Sports Med, 36(2), 95-101.

 5. Willy, R. W., et al. (2016). Patellofemoral joint and hip muscle kinematics: comparison of runners with and without patellofemoral pain. J Orthop Sports Phys Ther, 46(2), 104-110.

 6. Nimon, G., et al. (1998). Natural history of anterior knee pain: a 14- to 20-year follow-up of 182 patients. J Pediatr Orthop, 18(6), 737-741. (PMID: 9449112)

 7. Devereaux, M. D., & Lachmann, S. M. (1984). Natural history of patellofemoral pain syndrome. J Bone Joint Surg Br, 66(5), 731-733.

 8. Dixit, S., et al. (2007). Management of patellofemoral pain syndrome. Am Fam Physician, 75(2), 194-202.

 9. Rathleff, M. S., et al. (2015). Patellofemoral pain in adolescence and adulthood: same same, but different? Sports Med, 45(11), 1489-1495. (PMID: 26463119)

 10. Lankhorst, N. E., et al. (2016). Risk factors for patellofemoral pain syndrome: a systematic review. J Orthop Sports Phys Ther, 46(2), 81-94. (PMID: 26792702)

 11. Nimon, G., et al. (1998). J Pediatr Orthop, 18(6), 737-741.

 12. Collins, N. J., et al. (2012). Prognosis of patellofemoral pain: a systematic review. J Orthop Sports Phys Ther, 42(11), 935-948. (PMID: 23242955)

 13. Drew, M. K., et al. (2023). How does patellofemoral pain start? A systematic review of risk factors and onset mechanism in prospective longitudinal cohort studies. Sports Med, 53(10), 1949-1967. (PMID: 37874571)

 14. Stathopulu, E., & Baildam, E. (2003). Anterior knee pain: a long-term follow-up. Rheumatology (Oxford), 42(3), 380-382.

 15. Thomas, M. J., et al. (2014). Patellofemoral osteoarthritis. Clin Sports Med, 33(1), 1-15. (PMID: 24376057)

 16. Boling, M., et al. (2010). Gender differences in the incidence and prevalence of patellofemoral pain syndrome. Scand J Med Sci Sports, 20(5), 725-730. (PMID: 23068589)

 17. Rathleff, M. S., et al. (2018). Hip strength and range of motion are risk factors for patellofemoral pain: a systematic review and meta-analysis. Br J Sports Med, 52(19), 1256-1265. (PMID: 30242107)

 18. Finnoff, J. T., et al. (2011). Hip strength and knee pain in soldiers. J Orthop Sports Phys Ther, 41(11), 830-838. (PMID: 22031622)

 19. Hoglund, L. T., et al. (2021). J Orthop Sports Phys Ther, 51(, 373-376. (PMC8359717)

 20. Crossley, K. M., et al. (2016). Br J Sports Med, 50(14), 839-843. (PMID: 29936425)


---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

บ้านใจอารีย์คลินิกกายภาพ มี 2 สาขา

!!ยินดีให้คำปรึกษา ฟรี!!

📌สาขา เยาวราช

-แผนที่ : https://g.co/kgs/kXSEbT

-โทร : 080 425 9900


📌สาขา เพชรเกษม81

-แผนที่ : https://g.co/kgs/MVhq7B

-โทร : 094 654 2460

 
 
 

Comments


Our Partner

สาขาเพชรเกษม 81
  • facebook
  • generic-social-link
  • generic-social-link

256/1 ซอยวุฒิสุข (ข้างสน.หนองแขม) เพชรเกษม 81, หนองแขม, กทม. 10160

สาขาเยาวราช
  • facebook
  • generic-social-link
  • generic-social-link

9 ถนนพระรามที่ ๔ แขวง ป้อมปราบ

เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร 10100
(อยู่ติดแยกหมอมี)

เวลาทำการ : จันทร์ - อาทิตย์ 9.00 น. - 20.00 น.

©2019 by JR Physio Clinic. Proudly created with Wix.com

bottom of page