Dr. W EP. 126 คนปวดหลัง 'ยกของ' ต่างจากคนไม่ปวด? 🤔 ความแข็งแรงเกี่ยวไหม? มาดูงานวิจัย!
- Werachart Jaiaree
- 17 พ.ค.
- ยาว 4 นาที
🤔สวัสดีครับ! Dr. W มาแล้วครับ! การก้มตัวลงไป "ยกของจากพื้น" เป็นท่าทางในชีวิตประจำวันที่เราทำกันบ่อยมากๆ และก็เป็นกิจกรรมที่มัก สัมพันธ์กับการบาดเจ็บหรืออาการปวดหลังส่วนล่าง (Low Back Pain - LBP) ด้วยใช่ไหมครับ เรามักจะได้ยินคำแนะนำว่า "เวลายกของ ให้ย่อเข่า หลังตรง" เพื่อลดภาระที่หลัง
แต่ในความเป็นจริง คนที่มีอาการปวดหลังอยู่แล้ว เขายกของแตกต่างจากคนที่ไม่ปวดหลังอย่างไร? เขายกของแบบเสี่ยงกว่าเดิม หรือจริงๆ แล้วเขามีวิธีปรับตัว? และ "ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ" มีผลต่อท่าทางการยกของพวกเขาหรือไม่?🤔
ประเด็นนี้ยังมีข้อมูลที่ยังไม่ชัดเจนนัก แต่มีงานวิจัยก่อนหน้านี้ที่พบว่า แม้แต่ในคน ปกติ ที่ไม่มีอาการปวดหลัง คนที่มีกล้ามเนื้อเหยียดสะโพกและหลังแข็งแรงกว่า ก็มีแนวโน้มที่จะ "ใช้" หรือสร้างโมเมนต์ (แรงบิด/ภาระงาน) ที่หลังส่วนล่างมากกว่าตอนยกของแบบ Squat lift และเราก็ทราบกันดีว่า คนที่ ปวดหลังเรื้อรัง มักจะมี กล้ามเนื้อเหยียดสะโพก (ก้น, Hamstrings) และกล้ามเนื้อเหยียดหลัง (Lumbar extensors) ที่อ่อนแอกว่า คนที่ไม่ปวดหลัง
ดังนั้น จึงเกิดคำถามว่า หรือจริงๆ แล้ว คนปวดหลังที่ยกของต่างไป เป็นเพราะเขา "ปรับ" ท่าทางให้เข้ากับ "ความอ่อนแอ" ของกล้ามเนื้อที่มีอยู่?🤔
มีงานวิจัยใหม่โดย Patterson และคณะ มาช่วยหาคำตอบเรื่องนี้ครับ!
⁉️เค้าศึกษาอย่างไร? (Methods)
นักวิจัยเปรียบเทียบคน 2 กลุ่ม กลุ่มละ 25 คน (อายุ 18-50 ปี):
1. กลุ่ม LBP: มีอาการปวดหลังส่วนล่างแบบไม่จำเพาะเจาะจง นานกว่า 3 เดือน
2. กลุ่มควบคุม: ไม่มีอาการปวดหลัง
โดยทำการวัด:
◾️ความแข็งแรง: ของกล้ามเนื้อเหยียดสะโพก และกล้ามเนื้อเหยียดหลัง ด้วยเครื่อง Dynamometer
◾️ชีวกลศาสตร์การยก: ให้ผู้เข้าร่วมยกกล่องที่มีน้ำหนัก 40% ของน้ำหนักตัว จากพื้นขึ้นมายืน โดยใช้เทคนิค Squat lift (ย่อเข่าลงไปยก) แขนเหยียดตรง (ไม่ได้ให้คำแนะนำเรื่องท่าทางอื่นๆ เพิ่มเติม ให้ยกตามความถนัดและความเร็วที่สบาย) แล้วใช้กล้อง 3 มิติ และแผ่นรับแรง วิเคราะห์ค่า โมเมนต์ (แรงบิด/ภาระงาน) ที่เกิดขึ้นที่หลังส่วนล่างและสะโพกขณะยก
🟢ผลการศึกษาที่สำคัญ: (Findings)
1. กลุ่ม LBP อ่อนแอกว่าจริง: ผลยืนยันว่า กลุ่มผู้ป่วย LBP มี ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อเหยียดสะโพกและหลัง "น้อยกว่า" กลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญ
2. กลุ่ม LBP ใช้หลัง 'น้อยกว่า' ตอนยก?: สิ่งที่น่าสนใจคือ พบว่าขณะยกของ กลุ่ม LBP กลับมีค่า โมเมนต์ที่หลังส่วนล่าง (Lumbar extensor moment) "น้อยกว่า" กลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญ (น้อยกว่าประมาณ 7-20%)!
3. ท่าทางการยกต่างกัน: เมื่อดูจากภาพเคลื่อนไหว (ดูรูป A vs B ประกอบ ) พบว่ากลุ่ม LBP มีแนวโน้มที่จะยกของโดย "ลำตัวตั้งตรงมากกว่า" (More upright trunk - รูป B) ในขณะที่กลุ่มควบคุมจะ "ก้มลำตัวไปข้างหน้ามากกว่า" (More forward trunk - รูป A) ซึ่งการยกแบบลำตัวตั้งตรงกว่านี้ จะช่วย ลด โมเมนต์หรือภาระงานที่หลังและสะโพกได้

4. ความแข็งแรงยังคงสัมพันธ์กับ 'สไตล์' การยก: แม้ในกลุ่ม LBP เอง คนที่มีกล้ามเนื้อเหยียดสะโพก/หลังแข็งแรงกว่า ก็ยังคงมีแนวโน้มที่จะสร้างโมเมนต์ที่หลังมากกว่าคน LBP ที่อ่อนแอกว่าอยู่ดี (ความสัมพันธ์นี้พบทั้งในกลุ่ม LBP และกลุ่มควบคุม)
🤔ตีความผลอย่างไร? (Interpretation)
ผลการศึกษานี้ชี้ให้เห็นภาพที่น่าสนใจครับ:
◾️คนที่ปวดหลังเรื้อรัง (ซึ่งมักจะอ่อนแอกว่า) ไม่ได้ยกของแบบใช้หลังเยอะกว่าหรือเสี่ยงกว่าเสมอไป อย่างที่เราอาจเคยคิด
◾️แต่พวกเขามีแนวโน้มที่จะ "ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์" (Adapt lifting strategy) โดยทำให้ ลำตัวตั้งตรงมากขึ้น เพื่อ "ชดเชย" หรือ "ปรับให้เข้ากับ" (Accommodate) ความอ่อนแอ ของกล้ามเนื้อเหยียดสะโพกและหลังที่มีอยู่
◾️การปรับท่าทางนี้ จริงๆ แล้วเป็นการ "ลดภาระ" หรือโมเมนต์ที่กระทำต่อหลังส่วนล่างขณะยกนั่นเอง!
◾️ดังนั้น ความแตกต่างของท่าทางการยกที่เราเห็นในคนปวดหลัง อาจมี "ความอ่อนแอของกล้ามเนื้อ" เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการเลือกใช้ท่าทางนั้นๆ
✅แล้วเราในฐานะนักกายภาพควรทำอย่างไร? (Clinical Implication)
งานวิจัยนี้ให้ข้อคิดที่สำคัญมากสำหรับการฟื้นฟูผู้ป่วย LBP ครับ:
◾️การดูแลผู้ป่วย LBP โดยเฉพาะกลุ่มเรื้อรัง ไม่ใช่แค่การสอน "ท่ายกที่ถูกต้อง" เท่านั้น แต่ต้องให้ความสำคัญกับการ "ฟื้นฟูความแข็งแรง" (Addressing weakness) ของ กล้ามเนื้อเหยียดสะโพก (Glutes/Hamstrings) และกล้ามเนื้อเหยียดหลัง (Lumbar Extensors) ด้วย!
◾️การที่กล้ามเนื้อเหล่านี้แข็งแรงขึ้น อาจช่วยให้ผู้ป่วยสามารถ "กลับมามีความสามารถในการยก (Lifting capacity)" ที่ใกล้เคียงปกติมากขึ้นได้
◾️และที่สำคัญ อาจช่วย "ตัดวงจรความอ่อนแอ (Deconditioning cycle)" ที่มักเกิดขึ้นในผู้ป่วย LBP เรื้อรัง (ปวด -> ไม่กล้าขยับ -> กล้ามเนื้ออ่อนแอลง -> ยิ่งปวดง่ายขึ้น -> ...)
💭บทสรุปและข้อคิดจาก Dr. W:
งานวิจัยนี้ให้มุมมองใหม่ๆ ที่น่าสนใจครับ คนปวดหลังเรื้อรังอาจจะไม่ได้ยกของ "ผิดท่า" เพราะไม่รู้ แต่เขาอาจจะกำลังยกในท่าที่ "ปลอดภัยที่สุด" เท่าที่ความแข็งแรงของเขามี ณ ตอนนั้น การแก้ไขปัญหาจึงไม่ใช่แค่การบอกให้ "หลังตรง" แต่ต้อง "สร้างความแข็งแรง" ให้กับกล้ามเนื้อหลักที่ใช้ในการยก (ก้น, หลัง) เพื่อให้เขาสามารถกลับมายกของได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และลดการพึ่งพาท่าทางชดเชยนั้นๆ ได้ในระยะยาวครับ! การออกกำลังกายเพื่อความแข็งแรงจึงเป็นหัวใจสำคัญจริงๆ ครับ
♥️เคสตัวอย่างจากคลินิก: ปวดหลัง ยกของไม่ไหว... เพราะ 'ก้น' กับ 'หลัง' ลืมวิธีทำงาน? (NMI/NKT Approach)
◾️ผู้ป่วย: คุณวิทย์ พนักงานบัญชี อายุ 42 ปี มีอาการ ปวดหลังส่วนล่างเรื้อรัง (Chronic LBP) มานานเป็นปี อาการปวดเป็นๆ หายๆ มักเป็นมากขึ้นหลังนั่งทำงานนานๆ หรือหลังจาก ก้มๆ เงยๆ ยกของ แม้จะเป็นของที่ไม่หนักมาก (เช่น ลังเอกสาร, กระถางต้นไม้เล็กๆ) รู้สึก ไม่มั่นใจ เวลายกของ กลัวปวดหลัง และรู้สึกว่า หลังกับก้นไม่ค่อยมีแรง
◾️การประเมิน:
✔️ซักประวัติ/ตรวจร่างกาย: ไม่พบสัญญาณอันตราย (Red flags). กดเจ็บบริเวณกล้ามเนื้อหลังส่วนล่าง (Lumbar paraspinals) และพบจุดกดเจ็บที่กล้ามเนื้อก้น (Gluteus medius/maximus).
✔️สังเกตการยกของ (Simulated Squat Lift): ให้ลองยกกล่องจากพื้น พบว่าคุณวิทย์ใช้วิธี ย่อเข่าเยอะมาก แต่ก้มตัวน้อย พยายามให้หลังตั้งตรงแน่ว ตลอดการยก (คล้ายรูป B ในงานวิจัย Patterson) ดูเหมือนใช้แรงจากต้นขาด้านหน้า (Quads) เป็นหลัก และดูเกร็งๆ ไม่เป็นธรรมชาติ
✔️ทดสอบความแข็งแรง: พบว่ากำลังกล้ามเนื้อ เหยียดสะโพก (Hip Extensors - โดยเฉพาะ Gluteus Maximus) และ เหยียดหลัง (Lumbar Extensors) อ่อนแรงกว่าที่ควรจะเป็น หรือเมื่อเทียบกับกล้ามเนื้องอสะโพก
✔️การประเมินด้วย NMI/NKT: จากประวัติ LBP เรื้อรัง, รูปแบบการยกของที่ดูชดเชย, และผลการทดสอบความแข็งแรง สงสัยว่าอาจมี Muscle Imbalance และการทำงานของระบบประสาทที่ผิดปกติ:
◾️Hypothesis: กล้ามเนื้อหลักที่ควรทำงานตอนยกของอย่าง Gluteus Maximus (GM) และ Lumbar Multifidus/Extensors อาจถูก ยับยั้งการทำงาน (Inhibited) จากอาการปวดเรื้อรังหรือไม่ใช้งานนานๆ
◾️Compensation: กล้ามเนื้อ งอสะโพก (Hip Flexors - Psoas, TFL) หรือ ต้นขาด้านหลัง (Hamstrings) อาจจะ ทำงานหนักเกินไป (Facilitated) เพื่อชดเชย หรือเพื่อ "ป้องกัน" ไม่ให้ก้มตัวมากเกินไป
◾️Testing: ทดสอบ MMT ของ GM และ Lumbar Extensors -> ยืนยันว่า อ่อนแรง (Inhibited). ทดสอบความตึงตัวฟของ Psoas/TFL -> พบว่า ตึงตัว (Facilitated). ทดสอบ Hamstrings -> อาจจะแข็งแรง แต่เมื่อเทียบสัดส่วนการทำงานกับ GM แล้ว GM ทำงานน้อยกว่ามาก
◾️การรักษาด้วย NMI/NKT และกายภาพบำบัด:
✔️ขั้นตอนที่ 1 (Release): ใช้เทคนิค Manual therapy หรือการยืดเหยียด เพื่อ คลาย กล้ามเนื้อ Hip Flexors (Psoas, TFL) ที่ตึงตัวและทำงานมากเกินไป
✔️ขั้นตอนที่ 2 (Activate): ใช้เทคนิคกระตุ้นแบบเฉพาะเจาะจง (Specific activation drills) เพื่อ "ปลุก" การทำงานของ Gluteus Maximus และ Lumbar Extensors ที่ "หลับ" อยู่ เช่น ท่า Clamshell, Bridge เน้นขมิบก้น, ท่า Bird-dog เน้นเกร็งหลังให้นิ่ง
✔️ขั้นตอนที่ 3 (Integrate/Re-program):
◾️Re-test: ทดสอบกำลัง GM หรือลองให้ทำท่า Hip hinge/Squat เล็กน้อย -> สังเกตว่าสามารถเกร็งก้นและควบคุมหลังได้ดีขึ้นหรือไม่
◾️Prescribe Exercise: ออกแบบโปรแกรม เสริมสร้างความแข็งแรง ที่มุ่งเน้นไปที่ Hip Extensors และ Lumbar Extensors โดยตรง เริ่มจากท่าพื้นฐานที่กระตุ้นได้ดี แล้วค่อยๆ เพิ่มความหนัก (Progressive overload) เช่น Bodyweight Squat/Deadlift (เน้น Hip hinge), Good morning, Resistance band exercises, และอาจใช้ท่า Bridge ที่ปรับให้เน้นก้นมากขึ้น (ตาม EP 123)
◾️Lifting Re-education: เมื่อกล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้น ค่อยๆ สอนเทคนิคการยกของที่ใช้สะโพกและหลังทำงานประสานกันอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น (อาจไม่จำเป็นต้องหลังตรงแน่วตลอดเวลา แต่ใช้ Hip hinge ให้เป็น) เริ่มจากน้ำหนักเบาๆ ก่อน
♥️ผลลัพธ์ : คุณวิทย์รู้สึกมั่นใจในการก้มเงยและยกของมากขึ้น อาการปวดหลังลดลง สามารถออกแรงจากก้นและหลังได้ดีขึ้น สังเกตได้จากกำลังที่เพิ่มขึ้นและท่าทางที่เปลี่ยนไปในการยกของ
♥️ข้อสังเกต: เคสนี้สอดคล้องกับงานวิจัยของ Patterson et al. ที่ว่าความอ่อนแอของกล้ามเนื้อส่งผลต่อท่าทางการยกของในคนปวดหลัง การใช้ NMI/NKT ช่วยระบุได้ว่า ทำไม กล้ามเนื้อถึงอ่อนแอ (อาจเกิดจาก Inhibition/Facilitation) การรักษาจึงไม่ใช่แค่บอกให้ยกของท่าใหม่ แต่ต้อง "แก้ไข" ที่ความไม่สมดุลของกล้ามเนื้อ และ "สร้างความแข็งแรง" ให้กับกล้ามเนื้อที่ถูกต้อง เพื่อให้ร่างกายมีความสามารถ (Capacity) เพียงพอที่จะรองรับการยกของได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพครับ
♥️References
🔸Kumar S. Theories of musculoskeletal injury causation. Ergonomics. 2001 Jan;44(1):17-47. doi: 10.1080/00140130120965. PMID: 11211007.
🔸Steele J, Bruce-Low S, Smith D, Jessop D, Osborne N. Isolation exercise practices and their association with chronic low back pain: a preliminary investigation. Healthcare (Basel). 2022 Jan 1;10(1):50. doi: 10.3390/healthcare10010050. PMID: 35052214; PMCID: PMC8775394.
🔸Patterson JA, Kivational KA, McLean SA, Moreside JM. Trunk and hip extensor strength is associated with lower lumbar spine moments in healthy individuals during a squat lift. Clinical Biomechanics (Bristol, Avon). 2022 Jan;91:105539. doi: 10.1016/j.clinbiomech.2021.105539. Epub 2021 Nov 27. PMID: 34844059.
🔸Goubert D, De Pauw R, Meeus M, et al. Lumbar muscle structure and function in chronic versus recurrent low back pain: a cross-sectional study. Musculoskeletal Science and Practice. 2017 Oct;31:38-46. doi: 10.1016/j.msksp.2017.09.001. Epub 2017 Sep 7. PMID: 28881295.
🔸Belinga PJO, Ovigue F, Nana AJ, et al. Prevalence and Risk Factors of Low Back Pain among Health Care Professionals Working at the Douala General Hospital, Cameroon. Journal of Biosciences and Medicines. 2019;7(9):19-31. doi: 10.4236/jbm.2019.79003.
🔸Patterson JA, Kivational KA, Moreside JM, McLean SA. Influence of hip and lumbar extensor strength on lumbar moments during a squat lift: An evaluation of persons with and without low back pain. Clinical Biomechanics (Bristol, Avon). 2025 Feb 4;114:106288. doi: 10.1016/j.clinbiomech.2025.106288. Epub ahead of print. PMID: 39893712.
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บ้านใจอารีย์คลินิกกายภาพ มี 2 สาขา
!!ยินดีให้คำปรึกษา ฟรี!!
📌สาขา เยาวราช
-แผนที่ : https://g.co/kgs/kXSEbT
-โทร : 080 425 9900
-Line : https://lin.ee/6pVt7JG
📌สาขา เพชรเกษม81
-แผนที่ : https://g.co/kgs/MVhq7B
-โทร : 094 654 2460
-Line :https://lin.ee/cl1hNqe
Comentários