top of page

Dr. W EP. 125 เจ็บ 'หน้าแข้ง' (Shin Splints / MTSS) ซ้ำๆ? 😩 เช็ค 5 ปัจจัยเสี่ยงทางชีวกลศาสตร์!

 🧐สวัสดีครับ! Dr. W มาแล้วครับ! ใครเคยเจ็บ หรือกำลังเจ็บแปลบๆ หรือปวดตื้อๆ ที่ สันหน้าแข้งด้านใน บ้างครับ? อาการนี้ที่เรียกกันติดปากว่า "Shin Splints" หรือชื่อทางการแพทย์คือ Medial Tibial Stress Syndrome (MTSS) เป็นปัญหาที่น่ารำคาญและพบบ่อยมากในนักวิ่ง หรือคนที่ต้องลงน้ำหนักซ้ำๆ ที่ขา

สาเหตุของ MTSS นั้นซับซ้อนและมีหลายปัจจัยมาเกี่ยวข้องครับ แต่วันนี้เราจะมาโฟกัสที่ ปัจจัยเสี่ยงทางด้านชีวกลศาสตร์และกายวิภาค โดยอิงจากงานวิจัยใหม่ที่เป็น Systematic Review และ Meta-analysis โดย Lee และคณะ (ตีพิมพ์ใน J Sport Rehabil ปี 2024) ซึ่งเค้าได้รวบรวมข้อมูลจาก 24 งานวิจัย เพื่อดูว่าลักษณะโครงสร้างร่างกาย, ช่วงการเคลื่อนไหว, ความแข็งแรง, และชีวกลศาสตร์การวิ่งแบบไหน ที่สัมพันธ์กับการเกิด MTSS ครับ (ดูสรุปปัจจัยเสี่ยงในรูปที่แนบมาประกอบได้เลยครับ )

 💢5 ปัจจัยเสี่ยงทางชีวกลศาสตร์ ที่สัมพันธ์กับการเกิด MTSS:

จากการวิเคราะห์ข้อมูล งานวิจัยนี้พบ 5 ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญกับการเพิ่มความเสี่ยงในการเป็น MTSS ครับ:

1.  ลักษณะเท้าแบน/ล้ม (Increased Foot Pronation): ผู้ที่มีลักษณะเท้าแบน หรือมีการบิดของเท้าเข้าด้านใน (Pronation) มากกว่าปกติ (วัดจากค่า Foot Posture Index - FPI ที่สูง) มีความเสี่ยงต่อ MTSS มากขึ้น

2.  ลักษณะเข่าโก่ง (Genu Varum): ผู้ที่มีลักษณะเข่าโก่ง (วัดจากค่า Intercondylar Interval หรือระยะห่างระหว่างปุ่มกระดูกเข่าด้านในขณะยืนตรง ที่มากกว่าปกติ) มีความเสี่ยงต่อ MTSS มากขึ้น (อาจทำให้เกิดแรงกดที่กระดูกหน้าแข้งด้านในเพิ่มขึ้น)

3.  มุมบิดข้อเท้าเข้าในเยอะ (Increased Inversion ROM): การที่ข้อเท้าสามารถบิดพลิกเข้าด้านในได้ ช่วงกว้างกว่าปกติ ก็เป็นอีกปัจจัยเสี่ยงหนึ่ง

4.  กล้ามเนื้อบิดข้อเท้าออกนอก 'แข็งแรง' เกินไป? (Increased Eversion Strength): ข้อนี้น่าสนใจมากครับ! เพราะปกติเรามักจะมองหาความอ่อนแอ แต่รีวิวนี้กลับพบว่าการที่กล้ามเนื้อกลุ่ม Peroneals (ที่ทำหน้าที่บิดข้อเท้าออกนอก) มี ความแข็งแรงมากกว่า อาจจะสัมพันธ์กับความเสี่ยง MTSS ที่สูงขึ้น (ซึ่งอาจสะท้อนถึงการทำงานชดเชย (Compensation) หรือภาวะไม่สมดุล (Imbalance) บางอย่างของกล้ามเนื้อรอบข้อเท้า)

5.  อุ้งเท้ายุบตัวเยอะขณะเคลื่อนไหว (Increased Dynamic Arch Height Change): การที่โค้งอุ้งเท้าด้านในมีการ ยุบตัวหรือแบนลง อย่างมากในขณะเดินหรือวิ่ง ก็เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญเช่นกัน

 💢ข้อควรพิจารณาและสิ่งที่งานนี้ "ไม่ได้" บอก:

 ◾️ความระมัดระวังในการตีความ: ผลบางอย่าง เช่น เรื่องเข่าโก่ง (Intercondylar Interval) มาจากการรวมข้อมูล (Pooling) ใน Meta-analysis ซึ่งอาจทำให้เห็นความแตกต่างทางสถิติ แม้ในงานวิจัยย่อยๆ บางชิ้นอาจไม่พบความแตกต่างชัดเจน

 ◾️ปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ที่สำคัญ: สำคัญมาก! ต้องย้ำว่างานนี้ มุ่งเน้นเฉพาะปัจจัยทางชีวกลศาสตร์/กายวิภาค เท่านั้น และ ไม่ได้รวม ปัจจัยเสี่ยงสำคัญอื่นๆ ที่เรารู้กันดีว่าส่งผลต่อการบาดเจ็บจากการลงน้ำหนักซ้ำๆ (Bone Stress Injury) อย่าง MTSS ได้ เช่น:

    ◾️ลักษณะการฝึกซ้อม (Training characteristics): การเพิ่มระยะทาง/ความเร็ว/ความถี่เร็วเกินไป, การเปลี่ยนพื้นผิววิ่งกะทันหัน

    ◾️การพักผ่อน (Sleep and Recovery): การพักผ่อนไม่เพียงพอ

    ◾️โภชนาการและพลังงาน (Energy Availability): ภาวะพลังงานต่ำ (LEA) ที่เราคุยกันไปใน EP 122 ก็เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อ Bone Stress Injury!

 ◾️ดังนั้น การประเมินและจัดการ MTSS ต้องมอง "ภาพรวม" เสมอครับ ไม่ใช่แค่ปัจจัยทางชีวกลศาสตร์ 5 ข้อนี้เท่านั้น

⭕️ แล้วเราจะนำข้อมูลนี้ไปใช้อย่างไร? (Clinical Implications)

ผู้เขียนงานนี้เสนอว่า การรักษาหรือป้องกัน MTSS อาจจะเน้นไปที่การแก้ไข ลักษณะเข่าโก่ง (Genu Varum) (ซึ่งอาจแก้ไขได้ยาก) และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ลักษณะเท้า (Foot Posture) ซึ่งอาจทำได้ผ่าน:

    ◾️การฝึกความแข็งแรงกล้ามเนื้อมัดเล็กในเท้า (Intrinsic foot muscle strengthening): เช่น ท่า Short Foot หรือ Toe Spread Out (ที่เราคุยกันใน EP 119) เพื่อช่วยพยุงอุ้งเท้าและลดการยุบตัวขณะเคลื่อนไหว

    ◾️การปรับท่าวิ่ง (Gait Retraining): เพื่อช่วยลดแรงกระแทก หรือปรับการลงน้ำหนัก/การบิดของเท้าและข้อเท้าให้เหมาะสมขึ้น

 💭บทสรุปและข้อคิดจาก Dr. W:

 ◾️อาการเจ็บหน้าแข้ง (MTSS) เป็นปัญหาที่ซับซ้อนและมีหลายปัจจัยเกี่ยวข้อง งานรีวิวนี้ช่วยชี้ให้เห็นถึง 5 ปัจจัยเสี่ยงทางชีวกลศาสตร์ที่น่าสนใจ ได้แก่ ลักษณะเท้าแบน/อุ้งเท้ายุบ, เข่าโก่ง, มุมบิดข้อเท้าเข้าในเยอะ, กล้ามเนื้อบิดข้อเท้าออกนอกแข็งแรง(?) และอุ้งเท้ายุบตัวมากขณะเคลื่อนไหว

◾️ ดังนั้น ในการประเมินผู้ที่มีอาการ MTSS การตรวจดูโครงสร้างเท้า (เช่น FPI), ลักษณะเข่า, ช่วงการเคลื่อนไหวข้อเท้า, และความแข็งแรง/สมดุลของกล้ามเนื้อรอบข้อเท้าและเท้า จึงมีความสำคัญ

 ◾️แนวทางการรักษาและป้องกัน ควรมุ่งเน้นการแก้ไขปัจจัยเหล่านี้ที่เราพอจะปรับได้ เช่น การฝึกกล้ามเนื้อเท้าให้แข็งแรงเพื่อควบคุมอุ้งเท้า, การปรับเทคนิคการวิ่ง แต่ ห้ามลืมเด็ดขาด! ว่าต้องพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วยเสมอ ทั้งเรื่อง การฝึกซ้อม, การพักผ่อน, และโภชนาการ ครับ การมองแบบองค์รวม (Holistic approach) คือกุญแจสำคัญในการจัดการ MTSS ให้ได้ผลดีที่สุดครับ!

 ♥️เคสตัวอย่างจากคลินิก: เจ็บหน้าแข้งซ้ำซาก... แก้ที่กล้ามเนื้อ Imbalance ด้วย NMI/NKT?

 ผู้ป่วย: น้องพลอย นักวิ่งโรงเรียน อายุ 16 ปี มีอาการ เจ็บที่สันหน้าแข้งด้านใน (MTSS) ทั้งสองข้าง เป็นๆ หายๆ มาตลอดช่วง 1 ปีที่ซ้อมวิ่ง เคยพัก, ประคบเย็น, ยืดกล้ามเนื้อ, เปลี่ยนรองเท้าวิ่ง, ลองใส่แผ่นรองเท้า ก็ดีขึ้นแค่ชั่วคราว พอกลับไปซ้อมหนักอาการก็กลับมา ทำให้ซ้อมได้ไม่ต่อเนื่อง

 ⬛️การประเมิน:

    ◾️ซักประวัติ: ตรวจสอบปัจจัยอื่นๆ เช่น การซ้อม (ค่อนข้างหนักและเพิ่มเร็ว), การพักผ่อน (พอใช้), โภชนาการ (ปกติ ไม่อดอาหาร) ไม่พบ Red flags ชัดเจน

    ◾️ตรวจร่างกาย: กดเจ็บชัดเจนตามแนวสันหน้าแข้งด้านใน (Medial tibial border) ทั้งสองข้าง ประเมิน 5 ปัจจัยเสี่ยงทางชีวกลศาสตร์ตามงานวิจัยของ Lee et al.:

      ✔️Foot Posture Index (FPI): คะแนนค่อนข้างสูง บ่งชี้ เท้าแบน/ล้ม (Pronated foot) ทั้งสองข้าง

      ✔️Intercondylar Interval: ไม่พบเข่าโก่งชัดเจน

      ✔️Ankle ROM: พบว่ามีมุม บิดข้อเท้าเข้าใน (Inversion ROM) มากกว่าปกติ เล็กน้อย

      ✔️Eversion Strength: ทดสอบความแข็งแรงของกล้ามเนื้อบิดข้อเท้าออกนอก (Peroneals) พบว่า แข็งแรงดีมาก (อาจจะดูแข็งแรงผิดปกติเมื่อเทียบกับกล้ามเนื้ออื่น)

      ✔️Dynamic Arch Height Change: สังเกตตอนเดินและทำ Single Leg Squat พบว่า อุ้งเท้ามีการยุบตัว (Arch collapse) ค่อนข้างเยอะ

    การประเมินด้วย NMI/NKT (NeuroMuscular Integration/NeuroKinetic Therapy): จากลักษณะเท้าแบน อุ้งเท้ายุบ และประวัติเจ็บซ้ำๆ สงสัยว่าอาจมี Muscle Imbalance บริเวณเท้าและข้อเท้า:

      ✔️Hypothesis: กล้ามเนื้อที่ควรจะพยุงอุ้งเท้า เช่น Tibialis Posterior (TP) และ กล้ามเนื้อมัดเล็กในฝ่าเท้า (Intrinsic foot muscles) อาจจะทำงานได้ไม่ดี (Inhibited)

      ✔️Compensation: กล้ามเนื้อ Peroneals (ที่บิดเท้าออกนอกและทดสอบแล้วแข็งแรงมาก) อาจจะ ทำงานหนักเกินไป (Facilitated) เพื่อพยายามชดเชย หรือควบคุมการล้มของเท้า

      ✔️Testing: ทดสอบกำลัง TP และ intrinsic foot muscles -> พบว่า อ่อนแรง (Inhibited) จริง ทดสอบ Peroneals -> พบว่า แข็งแรงและตึงตัว (Facilitated)

 ⬛️การวินิจฉัยทางกายภาพบำบัด: Recurrent Medial Tibial Stress Syndrome (MTSS) สัมพันธ์กับปัจจัยทางชีวกลศาสตร์ (เท้าแบน/อุ้งเท้ายุบ, Inversion ROM เยอะ) และมีภาวะ Muscle Imbalance (Inhibited TP/Intrinsics, Facilitated Peroneals)

 ⬛️การรักษาด้วย NMI/NKT และกายภาพบำบัด:

    ✔️ขั้นตอนที่ 1 (Release): ใช้เทคนิค Manual therapy คลายกล้ามเนื้อ Peroneals ที่ตึงและทำงานหนักเกินไป

    ✔️ขั้นตอนที่ 2 (Activate): ใช้เทคนิคกระตุ้นการทำงานของ Tibialis Posterior และ Intrinsic foot muscles ที่ถูกยับยั้ง ให้ "ตื่น" กลับมาทำงาน

    ✔️ขั้นตอนที่ 3 (Integrate/Re-program):

   - Re-test: ทดสอบกำลัง TP หรือการควบคุมอุ้งเท้า (เช่น Single leg squat) -> พบว่าทำได้ดีขึ้น อุ้งเท้ายุบน้อยลง

    - Prescribe Exercise: เน้นการออกกำลังกายเพื่อ เพิ่มความแข็งแรง ของ TP และ Intrinsic foot muscles โดยเฉพาะ (เช่น Short Foot, Toe Spread Out - จาก EP 119, Heel raises เน้นคุมเท้าไม่ให้ล้ม) ควบคู่ไปกับการยืด Peroneals อย่างเหมาะสม

    - Gait Retraining: อาจพิจารณาสอนการปรับท่าวิ่งเบื้องต้น เช่น การเพิ่มรอบขา (Cadence) หรือการลงน้ำหนักให้เบาลง เพื่อลดแรงกระทำต่อหน้าแข้ง

    - Training Load Management: ให้คำแนะนำเรื่องการปรับตารางซ้อม ค่อยๆ เพิ่มความหนักอย่างเหมาะสม

 ⭕️ผลลัพธ์ : หลังจากปรับสมดุลกล้ามเนื้อด้วย NMI/NKT และเน้นการออกกำลังกายที่กล้ามเนื้ออุ้งเท้าโดยตรง น้องพลอยรู้สึกว่าเท้ามีความมั่นคงมากขึ้น อาการเจ็บหน้าแข้งค่อยๆ ลดลง และสามารถกลับไปซ้อมวิ่งได้ยาวนานขึ้นโดยอาการไม่กลับมา หรือกลับมาน้อยลงมาก

 ข้อสังเกต: เคสนี้แสดงให้เห็นว่า แม้เราจะระบุปัจจัยเสี่ยงทางชีวกลศาสตร์ (เช่น เท้าแบน) ได้แล้ว การมองลึกลงไปถึง "Muscle Imbalance" ที่ซ่อนอยู่ (ทำไมเท้าถึงแบน? กล้ามเนื้อไหนไม่ทำงาน? กล้ามเนื้อไหนทำงานเกิน?) และใช้เทคนิคอย่าง NMI/NKT เข้ามาช่วย "แก้ไข" ความไม่สมดุลนั้น ควบคู่ไปกับการออกกำลังกายที่ตรงจุด (ไม่ใช่แค่ยืดน่อง/หน้าแข้ง หรือทำ Calf raise ทั่วไป) อาจเป็นกุญแจสำคัญในการรักษา MTSS ที่เป็นซ้ำๆ ให้หายขาดได้ครับ

♥️References

1. Lee I, Jeon HG, Ha S, Jeong H, Lee SY. How Medial Tibial Stress Syndrome Is Affected by Alignment, Range of Motion, Strength, and Gait Biomechanics: A Systematic Review and Meta-Analysis. Journal of Sport Rehabilitation. 2024 Nov 22;34(2):134-155. doi: 10.1123/jsr.2024-0031. Epub ahead of print. PMID: 39577407.


---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

บ้านใจอารีย์คลินิกกายภาพ มี 2 สาขา

!!ยินดีให้คำปรึกษา ฟรี!!

📌สาขา เยาวราช

-แผนที่ : https://g.co/kgs/kXSEbT

-โทร : 080 425 9900


📌สาขา เพชรเกษม81

-แผนที่ : https://g.co/kgs/MVhq7B

-โทร : 094 654 2460


 
 
 

Comments


Our Partner

สาขาเพชรเกษม 81
  • facebook
  • generic-social-link
  • generic-social-link

256/1 ซอยวุฒิสุข (ข้างสน.หนองแขม) เพชรเกษม 81, หนองแขม, กทม. 10160

สาขาเยาวราช
  • facebook
  • generic-social-link
  • generic-social-link

9 ถนนพระรามที่ ๔ แขวง ป้อมปราบ

เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร 10100
(อยู่ติดแยกหมอมี)

เวลาทำการ : จันทร์ - อาทิตย์ 9.00 น. - 20.00 น.

©2019 by JR Physio Clinic. Proudly created with Wix.com

bottom of page