top of page

😊 Dr. W EP. 205: "เจ็บสะโพกข้าง... ไม่ใช่แค่ 'ถุงน้ำอักเสบ'! 🧐 ทลาย 9 ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับ 'Gluteal Tendinopathy'"

สวัสดีครับ! Dr. W กลับมาอีกครั้งครับ! ใครเคยมีอาการปวดบริเวณสะโพกด้านข้าง, เวลานอนตะแคงทับแล้วเจ็บ, หรือเวลาลุกจากนั่งเป็นยืนแล้วปวดบ้างครับ? อาการเหล่านี้มักจะถูกตีตราด้วยคำวินิจฉัยสุดคลาสสิกว่า

ree

"ถุงน้ำข้างสะโพกอักเสบ (Trochanteric Bursitis)" และมักจะตามมาด้วยคำแนะนำให้พัก, ประคบเย็น, และอาจจะจบลงด้วยการฉีดสเตียรอยด์

แต่! จะเป็นอย่างไรถ้า Dr. W บอกว่า... แนวคิดนี้อาจจะ "ล้าสมัย" ไปแล้ว!

ล่าสุด มีงานวิจัยระดับ "Masterclass" โดย Grimaldi และคณะ (2025) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการวิจัยเรื่องนี้ ได้ทำการรวบรวมและสังเคราะห์หลักฐานเชิงประจักษ์ทั้งหมด เพื่อมา "ทลายความเชื่อผิดๆ (Refuting the myths)" ที่อยู่คู่กับอาการปวดสะโพกด้านข้างมาอย่างยาวนาน และให้แนวทางในการดูแลรักษาที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้นครับ


🤔 "Bursitis" หรือ "Tendinopathy"... ทำไมชื่อถึงสำคัญ?

➡️ ความจริงคือ: แม้ว่าการอักเสบของถุงน้ำ (Bursitis) จะเกิดขึ้นได้ แต่มัน ไม่ใช่สาเหตุหลัก ของอาการปวดสะโพกด้านข้างในผู้ป่วยส่วนใหญ่ครับ


➡️ งานวิจัยพบว่ามีผู้ป่วยเพียง 2-8% เท่านั้นที่มีการบวมของถุงน้ำโดยที่ไม่มีปัญหาที่เส้นเอ็น และที่สำคัญคือ เมื่อนำชิ้นเนื้อของถุงน้ำที่บวมนั้นไปตรวจ ก็มักจะ ไม่พบเซลล์อักเสบ แต่กลับพบเป็นเนื้อเยื่อไขมันและพังผืดแทน!


➡️ ผู้ร้ายตัวจริง: คือภาวะ "Gluteal Tendinopathy (GT)" หรือ ภาวะเอ็นกล้ามเนื้อสะโพกเสื่อม (โดยเฉพาะเอ็นของกล้ามเนื้อ Gluteus Medius และ Minimus) ซึ่งมักจะเกิดจากการ "กดทับ (Compression)" ของเส้นเอ็นกับกระดูก Greater trochanter ที่อยู่ข้างใต้ การบวมของถุงน้ำ (ถ้ามี) มักจะเป็นเพียง "ผลพลอยได้" ที่เกิดขึ้นร่วมกับปัญหาของเส้นเอ็นเท่านั้น


➡️ ทำไมชื่อถึงสำคัญ?: เพราะถ้าเราเข้าใจว่ามันเป็นปัญหาของ "เส้นเอ็น" ที่เกิดจากการรับภาระงานที่ไม่เหมาะสม ไม่ใช่ "การอักเสบ" แนวทางการรักษาก็จะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง จากการเน้น "ลดการอักเสบ" ไปสู่การ "จัดการภาระงาน (Load Management) และการเสริมสร้างความแข็งแรง (Strengthening)" ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าในระยะยาว (LEAP trial โดย Mellor et al. (2018) )


❌ ทลาย 9 ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับ Gluteal Tendinopathy (GT)

มาดูกันครับว่าความเชื่อเดิมๆ ที่เราอาจจะเคยได้ยินมา มีอะไรบ้างที่ไม่เป็นความจริง:


➡️ Myth 1: อาการปวดสะโพกข้างเกิดจากการอักเสบของถุงน้ำ (Bursitis)

ความจริง: ดังที่กล่าวไปข้างต้น ปัญหาหลักคือ "Tendinopathy" จากการกดทับ ไม่ใช่การอักเสบ


➡️ Myth 2: GT เกิดขึ้นเฉพาะในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน

ความจริง: แม้ว่าจะพบบ่อยที่สุดในกลุ่มนี้ แต่ GT สามารถเกิดขึ้นได้ใน ทุกเพศทุกวัย รวมถึงในคนอายุน้อยและนักกีฬาด้วย


➡️ Myth 3: การกดเจ็บบริเวณปุ่มกระดูก Greater Trochanter ก็เพียงพอต่อการวินิจฉัยแล้ว

ความจริง: การกดเจ็บเพียงอย่างเดียวไม่มีความจำเพาะพอ เพราะมีโครงสร้างหลายอย่างที่อาจทำให้เจ็บได้ ต้องใช้กลุ่มของท่าตรวจร่างกายอื่นๆ ประกอบกันเพื่อการวินิจฉัยที่แม่นยำ


➡️ Myth 4: การวินิจฉัยและวางแผนการรักษาควรจะอิงตามผล Imaging (Ultrasound/MRI)

ความจริง: ไม่ควร! เหมือนกับภาวะอื่นๆ (ที่เราคุยกันใน EP 79) การเปลี่ยนแปลงที่เห็นในภาพสแกน (เช่น เอ็นฉีกขาดบางส่วน, ถุงน้ำบวม) พบได้บ่อยมากในคนที่ "ไม่มีอาการ" เลย การวินิจฉัยต้องอาศัยการซักประวัติและตรวจร่างกายเป็นหลักเสมอ Imaging เป็นเพียงเครื่องมือเสริมเท่านั้น


➡️ Myth 5: GT เป็นภาวะที่หายได้เอง (Self-limiting)

ความจริง: ไม่ใช่เลยครับ หากไม่ได้รับการจัดการที่ถูกต้อง GT มักจะกลายเป็นปัญหาเรื้อรังและส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตในระยะยาว


➡️ Myth 6: GT เกิดจากพังผืด IT Band ตึง และควรรักษาด้วยการยืด IT Band

ความจริง: ความเชื่อนี้ผิดอย่างสิ้นเชิง! พังผืด IT Band เป็นเนื้อเยื่อที่แข็งแรงมากและไม่สามารถ "ยืด" ได้จริง การพยายามยืด IT Band (เช่น ท่ายืนไขว้ขาแล้วก้มตัว) กลับจะยิ่งไป "เพิ่มแรงกดทับ (Increase compression)" บนเอ็นกล้ามเนื้อ Gluteal ที่กำลังบาดเจ็บอยู่ และทำให้อาการแย่ลงไปอีก!


➡️ Myth 7: การฉีดสเตียรอยด์เป็นทางเลือกการรักษาแรกที่ดีที่สุด

ความจริง: การฉีดสเตียรอยด์อาจช่วยลดปวดได้ดีใน "ระยะสั้นมากๆ" แต่ใน "ระยะกลางถึงยาว" นั้น ให้ผลลัพธ์ที่ "ด้อยกว่า" การให้ความรู้และการออกกำลังกายอย่างมีนัยสำคัญ และอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของเส้นเอ็นในระยะยาวได้


➡️ Myth 8: ท่า 'Clam' เป็นท่าออกกำลังกายที่ดีที่สุดสำหรับ GT

ความจริง: ไม่ใช่เสมอไปครับ แม้ท่า Clam จะช่วยกระตุ้นการทำงานของ Gluteus Medius ได้ แต่การทำในท่านอนตะแคง (โดยเฉพาะเมื่อกางขาสูง) ก็สามารถสร้าง

"แรงกดทับ" ที่ไม่พึงประสงค์บนเส้นเอ็นได้เช่นกัน อาจจะมีท่าออกกำลังกายอื่นในท่ายืน (Weight-bearing) ที่มีประสิทธิภาพมากกว่าและสร้างแรงกดทับน้อยกว่าในระยะแรกของการฟื้นฟู


➡️ Myth 9: เอ็นกล้ามเนื้อ Gluteal ที่ฉีกขาดทุกกรณีต้องได้รับการผ่าตัดซ่อม

ความจริง: ไม่จำเป็นครับ! การฉีกขาดของเอ็น Gluteal (โดยเฉพาะแบบ Partial tear) พบได้บ่อยมากในคนไม่มีอาการ และผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่มีรอยฉีกขาดก็สามารถตอบสนองได้ดีต่อการรักษาแบบประคับประคอง (การให้ความรู้และการออกกำลังกาย) โดยไม่จำเป็นต้องผ่าตัด


💡 Dr. W's Take: ข้อคิดจาก Dr. W และการนำไปใช้ทางคลินิก

➡️ เปลี่ยนชื่อ... เปลี่ยนวิธีคิด... เปลี่ยนการรักษา: ก้าวแรกที่สำคัญที่สุดคือการเลิกใช้คำว่า "Bursitis" ที่ทำให้เข้าใจผิด และหันมามองปัญหานี้ในฐานะ "Gluteal Tendinopathy" ที่มี "แรงกดทับ" เป็นกลไกหลัก


➡️ การให้ความรู้คือยาขนานเอก (Education is Key): การอธิบายให้ผู้ป่วยเข้าใจถึงกลไกการเกิดโรค, การทลายความเชื่อผิดๆ (โดยเฉพาะเรื่องการยืด IT Band และการฉีดสเตียรอยด์), และการเน้นย้ำถึงความสำคัญของการจัดการ Load และการออกกำลังกาย คือหัวใจของการรักษาที่ประสบความสำเร็จ


➡️ ประเมินให้ครอบคลุม: อย่าลืมทำการวินิจฉัยแยกโรคเสมอ เพราะอาการปวดสะโพกด้านข้างอาจมีที่มาจากหลังส่วนล่าง, ข้อสะโพกเอง, หรือเส้นประสาทก็ได้


➡️ "แรงกดทับ" ไม่ใช่ปีศาจเสมอไป: ต้องเข้าใจว่าแรงกดทับเป็นสิ่งปกติ แต่ใน "ระยะแรก" ของการฟื้นฟูที่เส้นเอ็นยังมีความไวต่อการกระตุ้นอยู่ การ "หลีกเลี่ยง" ท่าทางที่สร้างแรงกดทับสูงๆ (เช่น การนั่งไขว่ห้าง, การยืนทิ้งสะโพก, การยืด IT band) ชั่วคราว เป็นกลยุทธ์ที่สมเหตุสมผล


➡️ เป้าหมายคือการสร้างความแข็งแรงและทนทาน: โปรแกรมการฟื้นฟูในระยะยาวต้องมุ่งเน้นไปที่การ ค่อยๆ เพิ่มภาระงาน (Progressive Loading) ให้กับเส้นเอ็นและกล้ามเนื้อ เพื่อให้มันสามารถปรับตัวและกลับมาทนทานต่อแรงต่างๆ ในชีวิตประจำวันได้อีกครั้ง


✨ เคสตัวอย่างจากคลินิก: เมื่ออาการปวดสะโพกข้าง... ไม่ใช่แค่ 'ถุงน้ำอักเสบ' อย่างที่คิด ✨

คุณแอน อายุ 52 ปี เป็นพนักงานบัญชีที่เริ่มหันมาเดินออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ มาที่คลินิก ด้วยปัญหา ปวดสะโพกข้างซ้ายเรื้อรัง


การประเมิน (Assessment):

➡️ Subjective (อาการและการรับรู้ของผู้ป่วย):

คุณแอนเล่าว่า: "ปวดสะโพกข้างซ้ายมาเกือบปีแล้วค่ะหมอ มันจะปวดลึกๆ ตรงปุ่มกระดูกข้างๆ นี่เลย (ชี้ไปที่ Greater trochanter) โดยเฉพาะ เวลานอนตะแคงทับข้างซ้ายจะปวดมาก จนต้องพลิกตัวตื่นกลางดึก, เวลา ลุกจากเก้าอี้หลังจากนั่งนานๆ, หรือเวลาเดินขึ้นบันไดค่ะ"

ประเด็นสำคัญ (History of Misdiagnosis & Failed Treatments): "เคยไปหาหมอที่คลินิกกระดูก เขาบอกว่าเป็น 'ถุงน้ำอักเสบ' ค่ะ ก็ได้ฉีดยาสเตียรอยด์ไป 2 ครั้ง ดีขึ้นแค่ช่วงแรกๆ แล้วก็กลับมาปวดอีก เพื่อนที่เป็นครูโยคะก็บอกว่าน่าจะเกิดจาก 'IT Band ตึง' หนูก็เลยพยายาม ยืดท่าไขว้ขาแล้วก้มตัวทุกวันเลย แต่มันกลับรู้สึกว่ายิ่งยืด ยิ่งเจ็บ ค่ะ ตอนนี้ท้อมากเลยค่ะ"


➡️ Objective (การตรวจร่างกาย):

Palpation: กดเจ็บอย่างชัดเจนบริเวณปุ่มกระดูก Greater trochanter

Special Tests:

Single Leg Stance test (ยืนขาเดียว 30 วินาที): สามารถกระตุ้นอาการปวดที่สะโพกข้างซ้ายได้

Resisted Hip Abduction: มีอาการอ่อนแรงและปวด

ท่าที่เน้นการกดทับ (Compressive Tests): การทำท่าที่นำสะโพกเข้าสู่ท่าหุบ (Adduction) เช่น การนำขาซ้ายไขว้มาอีกฝั่ง สามารถกระตุ้นอาการปวดได้ชัดเจนมาก


➡️ NKT/NMI Assessment (Neuromuscular Integration/Neurokinetic Therapy):

พบว่ากล้ามเนื้อ Gluteus Medius และ Minimus ข้างซ้าย ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อสำคัญในการกางสะโพกและสร้างความมั่นคง ทำงานได้ไม่ดี (Inhibited)

ในขณะที่กล้ามเนื้อ Tensor Fascia Latae (TFL) ที่อยู่ด้านหน้าและข้างของสะโพก ทำงานหนักและตึงตัวมากเกินไป (Facilitated/Compensating)


แผนการรักษา (Intervention Plan - เน้นการ "ทลายความเชื่อ" และฟื้นฟูที่ต้นตอ):

🧠 1. Pain Science Education (PSE) - สำคัญที่สุด!

ทลายความเชื่อเรื่อง 'Bursitis' และ 'IT Band':

แจ้งคนไข้ "คุณแอนครับ จากการตรวจอย่างละเอียด ปัญหาหลักของคุณแอน ไม่ได้มาจากการอักเสบของถุงน้ำ หรือพังผืด IT band ตึง อย่างที่เราเคยเข้าใจกันครับ"

ใช้ภาพกายวิภาคอธิบาย: "จริงๆ แล้วผู้ร้ายตัวจริงคือ 'เส้นเอ็น' ของกล้ามเนื้อก้น (Gluteal Tendons) ที่อยู่ตรงนี้ครับ (ชี้ตำแหน่ง) มันเกิดภาวะ 'เสื่อม' หรือ 'ระคายเคือง' ขึ้นมาจากการที่มันถูก 'กดทับ' กับกระดูกสะโพกซ้ำๆ ครับ"

The "Aha!" Moment: "ที่น่าตกใจคือ การที่คุณแอนพยายาม 'ยืด IT band' ด้วยท่ายืนไขว้ขาแล้วก้มตัว มันกลับยิ่งไป 'เพิ่มแรงกดทับ' บนเส้นเอ็นที่กำลังเจ็บอยู่ ทำให้อาการไม่ดีขึ้นหรืออาจจะแย่ลงครับ!"

เปลี่ยนมุมมองการรักษา:

"ดังนั้น เป้าหมายของเราจะไม่ใช่การไปลดการอักเสบหรือการยืด แต่คือการ 1. 'ลดการกดทับ' ในชีวิตประจำวัน และ 2. 'สร้างความแข็งแรง' ให้กับเส้นเอ็นและกล้ามเนื้อก้น เพื่อให้มันทนทานต่อแรงต่างๆ ได้ดีขึ้นครับ"


📈 2. Load Management & Postural Correction (จัดการภาระงานและปรับท่าทาง):

"ลดการกดทับ" ในชีวิตประจำวัน:

สอนให้หลีกเลี่ยงท่าทางที่สร้างแรงกดทับโดยตรง:

ห้ามนั่งไขว่ห้าง

ห้ามนอนตะแคงทับข้างที่เจ็บโดยตรง (แนะนำให้นอนตะแคงอีกข้างโดยมีหมอนรองระหว่างเข่า หรือนอนตะแคงทับข้างที่เจ็บโดยมีหมอนหนาๆ รองใต้เอวเพื่อยกสะโพกให้ลอยขึ้นเล็กน้อย)

ห้ามยืนทิ้งสะโพกไปด้านข้าง

การปรับเปลี่ยนเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ จะช่วย "เปิดโอกาส" ให้เส้นเอ็นได้พักและฟื้นตัว


⚙️ 3. NKT/NMI Corrective Strategy:

Release: คลายกล้ามเนื้อ TFL ที่ทำงานหนักเกินไป

Activate: กระตุ้นการทำงานของ Gluteus Medius และ Minimus ที่ "หลับ" อยู่ ด้วยท่าออกกำลังกายที่ไม่สร้างแรงกดทับในระยะแรก


💪 4. Progressive Strengthening Program (โปรแกรมเสริมความแข็งแรงแบบค่อยเป็นค่อยไป):

Phase 1 (Non-compressive strengthening):

เริ่มต้นด้วยท่าที่ไม่สร้างแรงกดทับ เช่น:

Isometric hip abduction (เกร็งกางขาสู้แรงต้านเบาๆ ในท่านอนหงาย)

Glute bridges, Prone hip extension (ท่าที่เน้น Gluteus Maximus โดยตรง)


Phase 2 (Gradual introduction of compressive loads):

เมื่อเส้นเอ็นแข็งแรงขึ้นและทนทานมากขึ้น ค่อยๆ เพิ่มท่าที่ต้องรับน้ำหนักในท่ายืนเข้ามา

เช่น Standing hip abduction, Banded side-steps, Squats/Lunges โดยเน้นการควบคุมแนวเข่าและสะโพกที่ดี

หลีกเลี่ยงท่า 'Clam' ในระยะแรก: เนื่องจากอาจยังสร้างแรงกดทับได้อยู่


ผลลัพธ์ (Outcome):

เพียงแค่การ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อ "ลดการกดทับ" ในสัปดาห์แรก ก็ทำให้อาการปวดตอนกลางคืนของคุณแอนดีขึ้นอย่างชัดเจน

เมื่อความไม่สมดุลของกล้ามเนื้อถูกแก้ไข และกล้ามเนื้อ Gluteals กลับมาแข็งแรงขึ้น อาการปวดเวลาเดินหรือลุกจากเก้าอี้ก็ค่อยๆ ลดลง

คุณแอนมีความเข้าใจในภาวะของตัวเอง เลิกทำท่ายืดที่ทำให้อาการแย่ลง และมีเครื่องมือ (การปรับท่าทาง + การออกกำลังกายที่ถูกต้อง) ในการดูแลตัวเองระยะยาว

เธอสามารถกลับไปเดินออกกำลังกายได้อีกครั้งอย่างมีความสุขและมั่นใจ


ข้อสังเกต: เคสนี้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่าการมีความรู้ที่ถูกต้องและทันสมัย (Refuting the myths) สามารถเปลี่ยนแนวทางการรักษาและให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าได้อย่างไร การทำความเข้าใจว่า GT เป็นปัญหาของ "การกดทับ" และ "การจัดการภาระงาน" ไม่ใช่ "การอักเสบ" คือกุญแจสำคัญที่นำไปสู่การฟื้นฟูที่ประสบความสำเร็จครับ!


📖 References :

➡️ Grimaldi, A., Ganderton, C., & Nasser, A. (2025). Gluteal tendinopathy masterclass: Refuting the myths and engaging with the evidence. Musculoskeletal Science and Practice, 76, 103253.

➡️ Mellor, R., Bennell, K., Grimaldi, A., et al. (2018). Education plus exercise versus corticosteroid injection for the treatment of gluteal tendinopathy (LEAP trial): a multicentre, single-blinded, randomised controlled trial. BMJ, 361, k1662.

➡️ Cook, J. L., & Purdam, C. R. (2012). Is compressive load a factor in the development of tendinopathy?. British Journal of Sports Medicine, 46(3), 163-168.

➡️ Fearon, A. M., et al. (2010). Greater trochanteric pain syndrome: defining the clinical syndrome. British Journal of Sports Medicine, 44(3), 196-202.

➡️ Borstad, J. D. (2008). Resting position of the scapula on the thoracic wall in healthy individuals. Journal of Orthopaedic & Sports Physical Therapy, 38(4), 190-198.


---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

บ้านใจอารีย์คลินิกกายภาพ มี 2 สาขา

!!ยินดีให้คำปรึกษา ฟรี!!

📌สาขา เยาวราช

-แผนที่ : https://g.co/kgs/kXSEbT

-โทร : 080 425 9900


📌สาขา เพชรเกษม81

-แผนที่ : https://g.co/kgs/MVhq7B

-โทร : 094 654 2460

 
 
 

Comments


JR Physio Clinic
บ้านใจอารีย์คลินิกกายภาพบำบัด

Our Partner

สาขาเพชรเกษม 81
  • facebook
  • generic-social-link
  • generic-social-link

256/1 Soi.Wuttisuk (Near Nongkhaem Police Station), Nongkhaem, Bangkok 10160

สาขาเยาวราช
  • facebook
  • generic-social-link
  • generic-social-link

9 Rama IV Road, Pom Prap, Pom Prap Sattru Phai, Bangkok 10100

Open hours : MON-SUN 9.00 am - 8.00 pm

©2019 by JR Physio Clinic. Proudly created with Wix.com

bottom of page