top of page

😊 Dr. W EP. 142: ข้อเท้าติด (กระดกได้ไม่สุด)? 🦶

ree
ree

สวัสดีครับ! Dr. W กลับมาอีกครั้งครับ! ใครเคยรู้สึกข้อเท้าตึงๆ เหยียดข้อเท้าขึ้นได้ไม่สุดบ้างครับ? ภาวะ มุมกระดกข้อเท้าจำกัด (Limited Ankle Dorsiflexion - DF ROM) เนี่ย เป็นปัญหาที่พบบ่อยมากนะครับ และมันไม่ได้แค่ทำให้รู้สึกไม่สบายตัว แต่มันยังเชื่อมโยงกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของการบาดเจ็บที่ขาส่วนล่าง, การทรงตัวที่แย่ลง, และประสิทธิภาพในการทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันรวมถึงการเล่นกีฬาที่ลดลงด้วย (อ้างอิง Bush et al., 2020; Terada et al., 2013)

เทคนิคหนึ่งที่นักกายภาพบำบัดนิยมใช้และมีแนวโน้มว่าได้ผลดีในการเพิ่มมุม DF-ROM ก็คือ Mobilization with Movement (MWM) หรือการขยับข้อต่อร่วมกับการเคลื่อนไหว ซึ่งสามารถทำได้ทั้งแบบให้นักกายภาพฯ ทำให้ (Clinician-applied MWM หรือ C-MWM) หรือแบบที่เราทำเองโดยใช้อุปกรณ์ช่วย เช่น เข็มขัด (Self-applied MWM หรือ S-MWM) (อ้างอิง Stanek and Pieczynski, 2020; Vicenzino et al., 2006) แต่คำถามคือ... แล้วสองวิธีนี้มันให้ผลแตกต่างกันไหมล่ะ?

🤔 ทำไมงานวิจัยนี้น่าสนใจ?

เพราะมันตอบคำถามสำคัญในทางปฏิบัติว่า ผู้ที่มีปัญหาข้อเท้าติด การทำ MWM ด้วยตัวเองที่บ้าน (S-MWM) จะให้ผลดีเทียบเท่ากับการมาให้นักกายภาพฯ ทำให้ที่คลินิก (C-MWM) หรือไม่ โดยเฉพาะในเรื่องผลทันทีต่อมุมข้อเท้า การทรงตัว และความสามารถในการกระโดด

🔬 เจาะลึกงานวิจัย (Demirkan et al., 2025)

มีงานวิจัยใหม่ (ตีพิมพ์ล่วงหน้าปี 2025) โดย Demirkan และคณะ ที่ศึกษาผลทันทีของการทำ C-MWM และ S-MWM เพียงครั้งเดียว ต่อมุม DF-ROM, การทรงตัว, และการกระโดด ในกลุ่มคนที่มีมุมกระดกข้อเท้าจำกัดครับ (อ้างอิง Demirkan et al., 2025)

➡️ ใครเข้าร่วม? (Who participated?):

ผู้ใหญ่สุขภาพดี 48 คน (หญิง 39, ชาย 9; อายุ 18-35 ปี) ที่มีมุม DF-ROM ของข้อเท้าข้างถนัดน้อยกว่า 45 องศา

คัดออก: คนที่บาดเจ็บข้อเท้าล่าสุด, มีโรคทางระบบประสาท/โรคประจำตัว, เคยผ่าตัดขา, หรือเล่นกีฬาเป็นประจำ

แบ่งเป็น 3 กลุ่มแบบสุ่ม (กลุ่มละ 16 คน): กลุ่ม C-MWM, กลุ่ม S-MWM, และกลุ่มควบคุม (Control)

➡️ เขาทำอะไรกันบ้าง? (What did they do?):

(จากข้อมูลระบุว่ามีภาพประกอบท่าทาง แต่จะอธิบายตามข้อความนะครับ)

⭐ กลุ่ม C-MWM: นักกายภาพบำบัดทำการ "ดันกระดูกข้อเท้าส่วน Talus ไปด้านหลัง (Posterior talar glide)" ขณะที่ผู้เข้าร่วมค่อยๆ ทำท่า Lunge (ย่อเข่าไปข้างหน้า) บนเตียง (ทำ 3 เซต เซตละ 10 ครั้ง พักระหว่างเซต 1 นาที)

⭐ กลุ่ม S-MWM: ผู้เข้าร่วมใช้ "เข็มขัดที่ไม่ยืด (Non-elastic belt)" คล้องที่ข้อเท้าเพื่อสร้างแรงดันกระดูก Talus ไปด้านหลังด้วยตัวเอง ขณะทำท่า Lunge เหมือนกลุ่มแรก โดยมีนักกายภาพฯ คอยดูแลความถูกต้อง

⭐ กลุ่มควบคุม (Control): ผู้เข้าร่วมทำท่า Lunge อย่างเดียว โดยไม่มีการทำ Mobilization

ทุกกลุ่มทำท่า Lunge ด้วยความเร็วที่ควบคุมโดยเครื่องให้จังหวะ (Metronome)

➡️ วัดผลอะไรบ้าง? (What was measured?):

🦶 มุมกระดกข้อเท้า (DF-ROM): วัดด้วยท่า Weight-Bearing Lunge Test (WBLT) โดยใช้เครื่องวัดมุมแบบดิจิทัล (Digital inclinometer)

🤸 การทรงตัว (Balance): ประเมินด้วย Y-Balance Test (YBT) ใน 3 ทิศทาง คือ ด้านหน้า (Anterior - ANT), ด้านหลังเฉียงใน (Posteromedial - PM), และด้านหลังเฉียงนอก (Posterolateral - PL) และคำนวณคะแนนรวม (Composite Score - CS)

🚀 การกระโดด (Jump Performance): วัดด้วยเครื่อง BTS G-Walk ประเมินความสูงในการกระโดดขาเดียวแบบดีดตัว (Single-leg countermovement jump height) และกำลังสูงสุดในการหดตัวของกล้ามเนื้อ (Maximum concentric power)

การวัดทั้งหมดทำก่อนและหลังการทำ Intervention ทันที โดยblind นักกายภาพบำบัดไว้ (ไม่ทราบว่าผู้ถูกวัดอยู่กลุ่มไหน)

📊 ผลลัพธ์ที่ได้

➡️ มุมกระดกข้อเท้า (DF-ROM):

กลุ่ม C-MWM และกลุ่ม S-MWM มีมุม DF-ROM เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ (Effect size ปานกลาง)

กลุ่ม Control ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ

ที่สำคัญคือ: ไม่พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญระหว่างกลุ่ม C-MWM และ S-MWM! (p=0.079)

➡️ การทรงตัว (Y-Balance Test):

⭐ ด้านหน้า (ANT): กลุ่ม C-MWM และ S-MWM ดีขึ้น / กลุ่ม Control ไม่เปลี่ยน / ไม่มีความแตกต่างระหว่างกลุ่ม MWM

⭐ ด้านหลังเฉียงใน (PM): กลุ่ม C-MWM และ S-MWM ดีขึ้น / กลุ่ม Control ไม่เปลี่ยน / ไม่มีความแตกต่างระหว่างกลุ่ม MWM

⭐ ด้านหลังเฉียงนอก (PL): ไม่พบการเปลี่ยนแปลง อย่างมีนัยสำคัญในทุกกลุ่ม

⭐ คะแนนรวม (CS): ดีขึ้นในทุกกลุ่ม! (ทั้ง C-MWM, S-MWM, และ Control) / ไม่มีความแตกต่างระหว่างกลุ่ม

➡️ การกระโดด (Jump Performance):

ไม่พบการเปลี่ยนแปลง อย่างมีนัยสำคัญทั้งความสูงในการกระโดดและกำลังสูงสุดในทุกกลุ่ม

💡 Dr. W's Take: มันหมายความว่ายังไง?

การทำ MWM เพียงครั้งเดียว ทั้งแบบให้นักกายภาพฯ ทำให้ (C-MWM) และแบบทำเองด้วยเข็มขัด (S-MWM) สามารถช่วยเพิ่มมุมกระดกข้อเท้า (DF-ROM) และการทรงตัวแบบ Dynamic (ในทิศทางด้านหน้าและหลังเฉียงในของ YBT) ได้ทันที และให้ผลลัพธ์ที่ "ไม่แตกต่างกัน" ครับ

นี่สนับสนุนแนวคิดว่า S-MWM เป็นทางเลือกที่ดีและทำได้จริง สำหรับให้ผู้ที่มีปัญหาข้อเท้าติดนำไปทำด้วยตัวเองที่บ้าน เพื่อจัดการปัญหาเบื้องต้น (Self-management)

การที่ YBT ด้านหลังเฉียงนอก (PL) ไม่เปลี่ยนแปลง อาจเป็นเพราะทิศทางนี้ต้องอาศัยการงอสะโพกมากกว่ามุมข้อเท้าโดยตรง (อ้างอิง Kang et al., 2015)

การที่คะแนนรวม YBT (CS) ดีขึ้นใน "ทุกกลุ่ม" รวมถึงกลุ่มควบคุมที่ทำแค่ท่า Lunge อย่างเดียว ชี้ว่าแค่การออกกำลังกายด้วยท่า Lunge ก็อาจช่วยพัฒนาการทรงตัวโดยรวมได้บ้าง

ส่วนเรื่องการกระโดดที่ไม่เปลี่ยนแปลง อาจเป็นเพราะการทำ MWM แค่ครั้งเดียวยังไม่ส่งผลมากพอ หรืออาจมีผลคล้ายการยืดเหยียดแบบ Static stretching เล็กน้อยจากการทำ MWM ซึ่งโชคดีที่มัน "ไม่ได้ทำให้" ประสิทธิภาพการกระโดดแย่ลง (อ้างอิง Bradley et al., 2007)

✅ ข้อแนะนำทางคลินิก (Clinical Implications):

นักกายภาพบำบัดสามารถสอนเทคนิค S-MWM ให้กับผู้ป่วยหรือนักกีฬาที่มีปัญหามุมกระดกข้อเท้าจำกัด เพื่อให้พวกเขานำไปทำเองที่บ้านเป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรมการฟื้นฟูได้

เทคนิคนี้มีประโยชน์สำหรับ "ผลลัพธ์ทันที" ในการเพิ่มมุมข้อเท้า ซึ่งอาจช่วยลดความเสี่ยงการบาดเจ็บหรือช่วยให้การเคลื่อนไหวอื่นๆ ทำได้ดีขึ้น

การประยุกต์ใช้ในนักกีฬาเยาวชนหรือผู้ที่กำลังฟื้นฟูร่างกายอาจมีประโยชน์มาก

⚠️ ข้อจำกัดของงานวิจัย (Limitations):

เป็นการศึกษาผลจาก การทำเพียงครั้งเดียว (Single-session) จึงยังไม่ทราบผลในระยะยาว

ไม่มีการติดตามผล (No follow-up) ทำให้ไม่รู้ว่าผลดีที่ได้จะคงอยู่นานแค่ไหน

ผู้เข้าร่วมเป็น คนสุขภาพดีที่ไม่มีอาการบาดเจ็บ (Asymptomatic individuals) ผลอาจไม่สามารถนำไปใช้ได้โดยตรงกับผู้ที่มีการบาดเจ็บข้อเท้าหรือมีภาวะเรื้อรัง

ไม่ได้แยกว่าข้อเท้าติดจากสาเหตุใด (เช่น เยื่อหุ้มข้อติด หรือ กล้ามเนื้อตึง)

จำนวนผู้เข้าร่วมค่อนข้างน้อย (แม้จะเพียงพอทางสถิติ)

✨ เคสตัวอย่างจากคลินิก ✨

คุณนนท์ อายุ 32 ปี เป็นผู้ที่ชื่นชอบการเข้ายิมและฝึกเวทเทรนนิ่งเป็นประจำ โดยมีเป้าหมายคือการเพิ่มความแข็งแรงและขนาดกล้ามเนื้อ คุณนนท์มาปรึกษาที่คลินิก ด้วยปัญหา ไม่สามารถ Squat ลงได้ลึกเท่าที่ต้องการ มาประมาณ 6 เดือนแล้ว เขารู้สึกว่า ส้นเท้าเริ่มยก (Heel lift) เมื่อพยายามย่อตัวลงต่ำกว่าจุดหนึ่ง และมักจะมีอาการ ตึงและเหมือนมีอะไรขัดๆ บริเวณหน้าข้อเท้าทั้งสองข้าง (Anterior ankle pinching/tightness) โดยเฉพาะข้างขวามากกว่า นอกจากนี้ บางครั้งยังมีอาการ ปวดเข่าด้านหน้า (Anterior knee pain) เล็กน้อยหลังการฝึก Squat หนักๆ

การประเมิน (Assessment):

➡️ Subjective (ข้อมูลจากคุณนนท์):

คุณนนท์: "เวลาผม Squat หนักๆ หรือพยายามจะลงให้ลึกแบบ Full Squat เนี่ย ส้นเท้าขวาผมมันจะยกลอยขึ้นมาก่อนเลยครับ แล้วจะรู้สึกตันๆ ที่หน้าข้อเท้า เหมือนมันไปต่อไม่ได้ พยายามฝืนก็เริ่มเจ็บเข่าหน้าตามมา ทั้งๆ ที่กล้ามเนื้อต้นขากับสะโพกผมว่าผมก็แข็งแรงพอสมควรนะครับ อยาก Squat ให้ได้ฟอร์มสวยๆ แล้วก็เพิ่มน้ำหนักได้มากกว่านี้"

เป้าหมาย: ต้องการ Squat ได้ลึกขึ้น (Ass-to-grass) โดยส้นเท้าไม่ยก และไม่มีอาการเจ็บ เพื่อให้สามารถพัฒนาความแข็งแรงได้อย่างเต็มที่

➡️ Objective:

Squat Analysis: เมื่อให้ทำ Bodyweight Squat และ Barbell Back Squat (ด้วยน้ำหนักที่เขาฝึกปกติ) พบว่า:

สามารถลงได้ประมาณ Parallel (ต้นขาขนานพื้น) ก่อนที่ส้นเท้าขวาจะเริ่มยกชัดเจน ตามด้วยข้างซ้ายเล็กน้อย

มีการโน้มตัวไปข้างหน้า (Excessive forward trunk lean) มากขึ้นเมื่อพยายามลงต่ำกว่านั้น

สังเกตเห็นข้อเท้าทั้งสองข้างมีมุมกระดกขึ้น (Dorsiflexion) ที่จำกัดเมื่อเทียบกับมุมที่เข่าและสะโพกงอลงไป

DF-ROM (Weight-Bearing Lunge Test - WBLT):

ข้างขวา: วัดระยะจากปลายนิ้วเท้าถึงกำแพงได้เพียง 5 ซม. พร้อมมีอาการตึงและขัดหน้าข้อเท้า

ข้างซ้าย: วัดได้ 7 ซม. มีอาการตึงเล็กน้อย

(เป้าหมายโดยทั่วไปคือประมาณ 10-12 ซม. หรือมากกว่านั้นเพื่อการ Squat ที่ดี)

NKT/NMI Assessment (Neuromuscular Integration/Neurokinetic Therapy):

➡️ Inhibited Muscles (กล้ามเนื้อทำงานได้ไม่ดี/ถูกยับยั้ง):

Tibialis Anterior (กล้ามเนื้อหน้าแข้งที่ช่วยกระดกข้อเท้า) ทั้งสองข้าง โดยเฉพาะข้างขวา พบว่าอ่อนแรง (Inhibited) เมื่อทดสอบในมุมที่ข้อเท้างอสุด (End-range dorsiflexion)

Gluteus Maximus (กล้ามเนื้อก้นใหญ่) อาจพบว่าทำงานได้ไม่เต็มที่ (Slightly inhibited) เนื่องจากไม่สามารถเข้าสู่ท่า Squat ที่ลึกพอจะกระตุ้นการทำงานได้อย่างเหมาะสม

➡️ Facilitated/Compensating Muscles (กล้ามเนื้อทำงานมากเกินไป/ตึงตัว):

Soleus & Gastrocnemius (กล้ามเนื้อน่อง) ทั้งสองข้าง พบว่าตึงตัวมาก (Hypertonic/Facilitated) และจำกัดการเคลื่อนไหวของข้อเท้า

Erector Spinae (กล้ามเนื้อหลังส่วนล่าง) อาจทำงานหนักขึ้น (Facilitated) เพื่อชดเชยการโน้มตัวไปข้างหน้าที่มากเกินไป

🧠 1. Pain Science Education (PSE) & Goal Setting (ให้ความรู้เรื่องความปวด/กลไก และตั้งเป้าหมาย):

อธิบายคุณนนท์ว่า:

อาการ "ขัด" ที่หน้าข้อเท้าเวลา Squat ลึกๆ และการที่ส้นเท้ายก อาจเกิดจาก มุมกระดกข้อเท้า (DF-ROM) ที่จำกัด ทำให้กระดูกข้อเท้า (Talus) ไม่สามารถเคลื่อนที่ไปด้านหลังได้อย่างเหมาะสมเมื่อหน้าแข้งเคลื่อนไปข้างหน้า (Relative posterior talar glide restriction)

การที่ข้อเท้าไปต่อไม่ได้ มันส่งผลต่อ "การเคลื่อนไหว (Kinetic chain)" ทั้งหมด ทำให้ร่างกายต้องชดเชยโดยการโน้มตัวไปข้างหน้ามากขึ้น (เพิ่มภาระให้หลังส่วนล่าง) หรือทำให้เข่าต้องรับภาระผิดปกติ (อาจนำไปสู่อาการปวดเข่า)

เทคนิค MWM (Mobilization with Movement) ที่จะสอนให้ทำเอง (S-MWM) จะช่วย "ปรับการเคลื่อนไหว" ของกระดูกข้อเท้า ทำให้กระดกข้อเท้าได้มากขึ้น ลดอาการขัด และทำให้ Squat ได้ดีขึ้น

อาการเจ็บเข่า ไม่ได้แปลว่าเข่าเสียหายเสมอไป แต่อาจเป็นผลมาจากการรับ Load ที่ผิดปกติจากการชดเชยของข้อเท้า

ตั้งเป้าหมายร่วมกัน: สามารถ Squat ได้ลึกขึ้นโดยส้นไม่ยก และลดอาการไม่สบายที่ข้อเท้า/เข่า เพื่อให้สามารถกลับไปเพิ่มน้ำหนักในการฝึกได้อย่างปลอดภัย

📈 2. Load Management & Activity Modification (การจัดการภาระงานและการปรับกิจกรรม):

ในช่วงแรก แนะนำให้คุณนนท์ ลดความลึกในการ Squat ชั่วคราว ให้อยู่ในระดับที่ไม่กระตุ้นอาการปวดหรือทำให้ฟอร์มเสียมากเกินไป

อาจ ลดน้ำหนักที่ใช้ในการ Squat ลงเล็กน้อย เพื่อให้สามารถโฟกัสกับการปรับปรุงเทคนิคและการเพิ่มมุมข้อเท้าได้ดีขึ้น

เน้นการ Warm-up ที่มีคุณภาพ โดยเฉพาะการเพิ่มความคล่องตัวของข้อเท้าก่อนเริ่มฝึก Squat

⚙️ 3. NKT/NMI Corrective Strategy (การแก้ไขความไม่สมดุลของกล้ามเนื้อ):

Release (คลายกล้ามเนื้อที่ตึง/ทำงานมากไป):

สอนเทคนิค Self-myofascial release (เช่น ใช้ Foam roller, ลูกนวด) สำหรับกล้ามเนื้อน่อง (Soleus, Gastrocnemius) ทั้งสองข้าง เน้นทำก่อนการฝึก

อาจมีการทำ Manual release โดยนักกายภาพบำบัดในคลินิกเพื่อผลลัพธ์ที่เร็วขึ้นในครั้งแรกๆ

Activate (กระตุ้นกล้ามเนื้อที่ทำงานน้อย/ถูกยับยั้ง):

Tibialis Anterior activation: เช่น Dorsiflexion with band resistance, Toe raises โดยเน้นการทำงานในช่วงสุดของการกระดกข้อเท้า

Gluteus Maximus activation: เช่น Glute bridges, Hip thrusts เพื่อเตรียมความพร้อมของกล้ามเนื้อสะโพก

🦶 4. Mobilization with Movement (MWM) - เน้น Self-MWM:

In-clinic (C-MWM): นักกายภาพฯ ทำ C-MWM ที่ข้อเท้าทั้งสองข้าง (Posterior talar glide during weight-bearing lunge/squat movement) เพื่อให้คุณนนท์ได้ "รู้สึก" ถึงการเคลื่อนไหวที่อิสระขึ้นและอาการขัดที่ลดลงทันที ซึ่งช่วยสร้างความเชื่อมั่น (Buy-in)

Home Program (S-MWM):

สอนคุณนนท์ทำ S-MWM โดยใช้เข็มขัดออกกำลังกาย (Resistance band/strap) หรือผ้าขนหนูที่ไม่ยืด คล้องบริเวณหน้าข้อเท้า (เหนือ Talus) ให้เข็มขัดช่วยดึงกระดูก Talus ไปทางด้านหลัง ขณะที่คุณนนท์ค่อยๆ ย่อตัวลงในท่าคล้าย Squat หรือ Lunge โดยพยายามให้ส้นเท้าติดพื้นและหน้าแข้งเคลื่อนไปข้างหน้าให้ได้มากที่สุด (ตามภาพที่คล้ายในงานวิจัย Demirkan et al.)

Key instructions: "รู้สึกเหมือนมีคนช่วยดึงข้อเท้าไปด้านหลังเบาๆ ตอนคุณย่อลงไปนะครับ พยายามให้ส้นเท้าติดพื้นไว้ แล้วค่อยๆ ดันเข่าไปข้างหน้าให้สุดเท่าที่รู้สึกสบาย ไม่เจ็บ"

Dosage: แนะนำให้ทำ 2-3 เซต เซตละ 10-15 ครั้ง ต่อข้าง ก่อนเริ่มเซต Squat ทุกครั้ง (เป็นส่วนหนึ่งของ Dynamic Warm-up)

🏋️‍♂️ 5. Squat Re-training & Progressive Loading (การฝึก Squat ใหม่ และการเพิ่มน้ำหนักแบบค่อยเป็นค่อยไป):

Immediately after S-MWM: ให้คุณนนท์ลองทำ Bodyweight Squat หรือ Goblet Squat ทันที เพื่อ "ใช้" มุมข้อเท้าที่เพิ่งได้มาใหม่ และให้สมองเรียนรู้การเคลื่อนไหวในรูปแบบที่ดีขึ้น (Motor learning)

Focus on Form: เน้นการ Squat โดยให้ส้นเท้าติดพื้น, เข่าเคลื่อนไปในทิศทางเดียวกับปลายเท้า, และสามารถย่อตัวลงได้ลึกขึ้นโดยที่ลำตัวยังตั้งตรงได้ดีขึ้น

Gradual Load Progression: เมื่อคุณนนท์สามารถ Squat ด้วยฟอร์มที่ดีขึ้นและมุมข้อเท้าที่มากขึ้นโดยไม่มีอาการเจ็บแล้ว ค่อยๆ เพิ่มน้ำหนัก (Load) ที่ใช้ในการฝึก Barbell Squat ขึ้นทีละน้อย ตามหลัก Progressive Overload โดยยังคงให้ความสำคัญกับเทคนิคที่ถูกต้องเสมอ

อาจมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบของ Squat ชั่วคราว เช่น ใช้ Box Squat เพื่อควบคุมความลึก หรือ Front Squat เพื่อช่วยให้ลำตัวตั้งตรงได้ง่ายขึ้น

ผลลัพธ์ (Outcome - หลังทำ S-MWM สม่ำเสมอก่อน Squat และปรับโปรแกรม 4-6 สัปดาห์):

✅ มุม DF-ROM (WBLT): ข้างขวาเพิ่มจาก 5 ซม. เป็น 9 ซม., ข้างซ้ายเพิ่มจาก 7 ซม. เป็น 10.5 ซม. อาการขัดหน้าข้อเท้าลดลงอย่างมาก

✅ Squat Performance: คุณนนท์สามารถ Squat ลงได้ลึกขึ้นอย่างชัดเจน (ใกล้เคียง Ass-to-grass) โดยที่ส้นเท้าทั้งสองข้างติดพื้นได้ดีตลอดการเคลื่อนไหว การโน้มตัวไปข้างหน้าลดลง

✅ Pain Reduction: อาการปวดเข่าด้านหน้าหลังการฝึก Squat หายไป

✅ Confidence & Load: คุณนนท์มีความมั่นใจในการ Squat มากขึ้น และสามารถค่อยๆ เพิ่มน้ำหนักที่ใช้ในการฝึกได้อีกครั้งอย่างปลอดภัย

✅ Self-efficacy: คุณนนท์ได้เรียนรู้เทคนิค S-MWM และการดูแลตัวเอง ทำให้เขามีเครื่องมือในการจัดการปัญหาข้อเท้าติดด้วยตัวเองในระยะยาว

ข้อสังเกต: เคสของคุณนนท์แสดงให้เห็นว่า การจำกัดของมุมกระดกข้อเท้า (DF-ROM) สามารถส่งผลกระทบต่อการออกกำลังกายที่มีการลงน้ำหนักอย่างท่า Squat ได้อย่างมาก การใช้เทคนิค S-MWM (ซึ่งงานวิจัยของ Demirkan et al., 2025 ชี้ว่าได้ผลดีเทียบเท่า C-MWM สำหรับผลทันที) ร่วมกับการแก้ไขความไม่สมดุลของกล้ามเนื้อด้วย NKT/NMI, การให้ความรู้ที่ถูกต้อง (PSE), และการจัดการ Load ที่เหมาะสม สามารถช่วยปลดล็อคข้อจำกัดนี้ ทำให้คุณนนท์กลับมา Squat ได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยยิ่งขึ้นครับ!

📖 References :

➡️ Demirkan, E., Çolak, T. K., Alptekin, K., & Ünlü, E. (2025). Effects of Two Mobilization with Movement Techniques to the Talocrural Joint in Individuals with Dorsiflexion Limitation: Clinician vs Self-Applied. Gait & Posture, 115, 96-101.

➡️ Bradley, P. S., Olsen, P. D., & Portas, M. D. (2007). The effect of static, ballistic, and proprioceptive neuromuscular facilitation stretching on vertical jump performance. The Journal of Strength and Conditioning Research, 21(1), 223–226.

➡️ Bush, H. M., Stanek, J. M., Wooldridge, J. D., & Warchol, M. L. (2020). Comparison of the Graston technique with instrument-assisted soft tissue mobilization for increasing dorsiflexion range of motion. Journal of Sport Rehabilitation, 30(4), 587–594.

➡️ Cruz-Díaz, D., Lomas-Vega, R., Osuna-Pérez, M. C., Hita-Contreras, F., & Martínez-Amat, A. (2015). Effects of joint mobilization on chronic ankle instability: A randomized controlled trial. Disability and Rehabilitation, 37(7), 601–610.

➡️ Godinho, I., Pinheiro, B. N., Júnior, L. D. S., Diniz, L. R., & Brasileiro, J. S. (2019). Effect of reduced ankle mobility on jumping performance in young athletes. Motricidade, 15(1), 46–51.

➡️ Kang, M. H., Kim, G. M., Kwon, O. Y., Weon, J. H., Oh, J. S., & An, C. S. (2015). Relationship between the kinematics of the trunk and lower extremity and performance on the Y-balance test. PM&R: The Journal of Injury, Function, and Rehabilitation, 7(11), 1152–1158.

➡️ Nguyen, A. P., Pitance, L., Mahaudens, P., Detrembleur, C., & Van Cant, J. (2021). Effects of Mulligan mobilization with movement in subacute lateral ankle sprains: A pragmatic randomized trial. Journal of Manual and Manipulative Therapy, 29(6), 341–352.

➡️ Stanek, J. M., & Pieczynski, A. E. (2020). Effectiveness of clinician- and patient-applied mobilisation with movement technique to increase ankle dorsiflexion range of motion. International Journal of Therapy and Rehabilitation, 27(8 ), 1–11.

➡️ Terada, M., Pietrosimone, B. G., & Gribble, P. A. (2013). Therapeutic interventions for increasing ankle dorsiflexion after ankle sprain: A systematic review. Journal of Athletic Training, 48(5), 696–709.

➡️ Vicenzino, B., Branjerdporn, M., Teys, P., & Jordan, K. (2006). Initial changes in posterior talar glide and dorsiflexion of the ankle after mobilization with movement in individuals with recurrent ankle sprain. Journal of Orthopaedic and Sports Physical Therapy, 36(7), 464–471.

➡️ Yun, S. J., Kim, M. H., Weon, J. H., Kim, Y. T., Jung, D. Y., & Kim, S. J. (2016). Correlation between toe flexor strength and ankle dorsiflexion ROM during the countermovement jump. Journal of Physical Therapy Science, 28(8 ), 2241–2244.

 
 
 

Comments


JR Physio Clinic
บ้านใจอารีย์คลินิกกายภาพบำบัด

Our Partner

สาขาเพชรเกษม 81
  • facebook
  • generic-social-link
  • generic-social-link

256/1 Soi.Wuttisuk (Near Nongkhaem Police Station), Nongkhaem, Bangkok 10160

สาขาเยาวราช
  • facebook
  • generic-social-link
  • generic-social-link

9 Rama IV Road, Pom Prap, Pom Prap Sattru Phai, Bangkok 10100

Open hours : MON-SUN 9.00 am - 8.00 pm

©2019 by JR Physio Clinic. Proudly created with Wix.com

bottom of page